พระนครศรีอยุธยา - ชาวนาในพื้นที่ตำบลโพธิ์สามต้น อำเภอางปะหัน พระนครศรีอยุธยา กัดฟันสู้แบ่งข้าวขายให้กับโรงสีโดยตรงในราคาตันละกว่า 5,000 บาท เพื่อนำเงินมาจ่ายค่าต้นทุนทำนา ขณะที่อีกส่วนหนึ่งยอมนำเข้าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐ แม้จะได้เงินช้าก็จำยอม เพราะได้เงินมากกว่า ด้านผู้ประกอบการรถเกี่ยวข้าว เผยได้รับผมกระทบเช่นเดียวกับชาวนา
วันนี้ (29 ม.ค.) กลุ่มชาวนาในพื้นที่ ต.โพธิ์สามต้น อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้นำรถเกี่ยวข้าวลงเก็บเกี่ยวข้าวนาปีจำนวนหลายสิบคันเพื่อเข้าโครงการรับจำนำข้าวตามที่รัฐบาลประการไว้ โดยพบว่าชาวนาหลายคนยังคงต้องเสี่ยงกับการนำข้าวเข้ารับจำนำ แม้ว่าจะต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องลงทุนในการเก็บเกี่ยวผลผลิต
นางประจีน ใจสะอาด อายุ 71 ปี ชาวนา กล่าวว่า ตนทำนา 11 ไร่ หลังเก็บเกี่ยวก็ต้องนำข้าวเข้ารับจำนำตามโครงการ เนื่องจากหากนำไปขายให้กับโรงสีโดยตรงจะได้ข้าวราคาตันละกว่า 5,000 บาทจะไม่คุ้มทุนที่ลงทุนลงแรงไป เพราะค่าต้นทุนในการทำนาสูงมาก จึงต้องยอมนำข้าวที่เก็บเกี่ยวไปเข้าโครงการรับจำนำข้าวกับรัฐบาล ที่จะได้ตันละกว่า 10,000 บาท ถึงแม้จะได้เงินช้าแต่เชื่อว่ารัฐบาลคงจะไม่โกง ช่วงนี้คงต้องไปกู้ยืมเงินจากญาติพี่น้องมาจ่ายเป็นค่าจ้างรถเกี่ยวก่อน ยังพอที่สู้ได้
นายนงค์ หมั่นพัน อายุ 70 ปี ชาวนา กล่าวว่า นับว่าเป็นความทุกข์ของชาวนาที่ลงทุนทำนาไปแล้วแต่ยังไม่ได้เงิน เพราะชาวนาส่วนใหญ่ต้องไปกู้ยืมเงินมาลงทุนในการทำนา ส่วนของตนทำนากว่า 100 ไร่ต้องแบ่งส่วนข้าวที่เก็บเกี่ยวได้บางส่วนนำไปขายให้โรงสีโดยตรงได้ตันละกว่า 5,000 บาท โดยจะแบ่งขายให้พอกับค่าใช้จ่าย เพื่อนำเงินส่วนนี้ไปจ่ายให้กับลูกน้องที่จ้างมาทำนา ค่าปุ๋ยค่ายาฆ่าแมลง และเป็นค่ารถเกี่ยว ก่อนและข้าวอีกอีกส่วนหนึ่งนำไปเข้าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ยังพอที่จะรับได้หากรัฐบาลจะจ่ายเงินล่าช้า แต่หากช้านานหลายเดือนชาวนาจะลำบากเพราะทนจ่ายค่าดอกเบี้ยไม่ไหว
ด้านผู้ประกอบการรถเกี่ยวข้าว นายบุตร นวลฉวี อายุ 60 ปี เจ้าของรถเกี่ยวข้าว กล่าวว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชาวนาก็ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการรถเกี่ยวข้าวเช่นกัน โดยพบว่าผู้ที่เกี่ยวข้าวน้อยไม่กี่ไร่ ปัญหาก็ไม่มากนัก แต่ในส่วนผู้ที่มีไร่นาหลายร้อยไร่ก็จะประสบปัญหาที่หนัก โดยจะต้องแบกรับทั้งนาและรถที่มาเกี่ยวข้าว
ในส่วนของผมที่เป็นรถเกี่ยวข้าวต้องลงทุนไปก่อน ตกวันละ 3,000-4,000 บาท ทั้งค่าน้ำมัน ค่าคนขับรถ แต่ก็ยังดีที่ชาวนาส่วนใหญ่ให้เงินมาเบื้องต้นบางส่วนหลังจากที่นำข้าวไปขายตรงโรงสีเพื่อนำเงินมาจ่ายในบางส่วนก็ค่อยๆ ให้ ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือกันไปอีกด้วย
วันนี้ (29 ม.ค.) กลุ่มชาวนาในพื้นที่ ต.โพธิ์สามต้น อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้นำรถเกี่ยวข้าวลงเก็บเกี่ยวข้าวนาปีจำนวนหลายสิบคันเพื่อเข้าโครงการรับจำนำข้าวตามที่รัฐบาลประการไว้ โดยพบว่าชาวนาหลายคนยังคงต้องเสี่ยงกับการนำข้าวเข้ารับจำนำ แม้ว่าจะต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องลงทุนในการเก็บเกี่ยวผลผลิต
นางประจีน ใจสะอาด อายุ 71 ปี ชาวนา กล่าวว่า ตนทำนา 11 ไร่ หลังเก็บเกี่ยวก็ต้องนำข้าวเข้ารับจำนำตามโครงการ เนื่องจากหากนำไปขายให้กับโรงสีโดยตรงจะได้ข้าวราคาตันละกว่า 5,000 บาทจะไม่คุ้มทุนที่ลงทุนลงแรงไป เพราะค่าต้นทุนในการทำนาสูงมาก จึงต้องยอมนำข้าวที่เก็บเกี่ยวไปเข้าโครงการรับจำนำข้าวกับรัฐบาล ที่จะได้ตันละกว่า 10,000 บาท ถึงแม้จะได้เงินช้าแต่เชื่อว่ารัฐบาลคงจะไม่โกง ช่วงนี้คงต้องไปกู้ยืมเงินจากญาติพี่น้องมาจ่ายเป็นค่าจ้างรถเกี่ยวก่อน ยังพอที่สู้ได้
นายนงค์ หมั่นพัน อายุ 70 ปี ชาวนา กล่าวว่า นับว่าเป็นความทุกข์ของชาวนาที่ลงทุนทำนาไปแล้วแต่ยังไม่ได้เงิน เพราะชาวนาส่วนใหญ่ต้องไปกู้ยืมเงินมาลงทุนในการทำนา ส่วนของตนทำนากว่า 100 ไร่ต้องแบ่งส่วนข้าวที่เก็บเกี่ยวได้บางส่วนนำไปขายให้โรงสีโดยตรงได้ตันละกว่า 5,000 บาท โดยจะแบ่งขายให้พอกับค่าใช้จ่าย เพื่อนำเงินส่วนนี้ไปจ่ายให้กับลูกน้องที่จ้างมาทำนา ค่าปุ๋ยค่ายาฆ่าแมลง และเป็นค่ารถเกี่ยว ก่อนและข้าวอีกอีกส่วนหนึ่งนำไปเข้าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ยังพอที่จะรับได้หากรัฐบาลจะจ่ายเงินล่าช้า แต่หากช้านานหลายเดือนชาวนาจะลำบากเพราะทนจ่ายค่าดอกเบี้ยไม่ไหว
ด้านผู้ประกอบการรถเกี่ยวข้าว นายบุตร นวลฉวี อายุ 60 ปี เจ้าของรถเกี่ยวข้าว กล่าวว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชาวนาก็ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการรถเกี่ยวข้าวเช่นกัน โดยพบว่าผู้ที่เกี่ยวข้าวน้อยไม่กี่ไร่ ปัญหาก็ไม่มากนัก แต่ในส่วนผู้ที่มีไร่นาหลายร้อยไร่ก็จะประสบปัญหาที่หนัก โดยจะต้องแบกรับทั้งนาและรถที่มาเกี่ยวข้าว
ในส่วนของผมที่เป็นรถเกี่ยวข้าวต้องลงทุนไปก่อน ตกวันละ 3,000-4,000 บาท ทั้งค่าน้ำมัน ค่าคนขับรถ แต่ก็ยังดีที่ชาวนาส่วนใหญ่ให้เงินมาเบื้องต้นบางส่วนหลังจากที่นำข้าวไปขายตรงโรงสีเพื่อนำเงินมาจ่ายในบางส่วนก็ค่อยๆ ให้ ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือกันไปอีกด้วย
