xs
xsm
sm
md
lg

เอกชนไทยร่วมเปิดใช้เขื่อนพลังน้ำแห่งแรกในสะหวันนะเขต สปป.ลาว พร้อมก้าวสู่แบตเตอรี่แห่งเอเชีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครพนม - ไทย-ลาวร่วมเปิดโครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำน้ำตกตาดสะแลน แห่งแรกของเมืองเซโปน แขวงสะหวันนะเขต กำลังผลิต 32 เมกะวัตต์ มูลค่าก่อสร้าง 300 ล้านบาท ขายกระแสไฟฟ้าให้รัฐบาลลาว เผยปัจจุบันลาวมีเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำใหญ่-เล็กกว่า 30 แห่งที่สร้างเสร็จแล้ว กำลังผลิตถึง 1,000 เมกกะวัตต์ เตรียมก้าวสู่แบตเตอรี่แห่งเอเชียในอนาคตอันใกล้

วันนี้ (28 ม.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า นายคำมะนี อินทิลาด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพลังงานและบ่อแร่ สปป.ลาว นายทอนแก้ว เจ้าเมืองเซโปน แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ดร.บุญถึง เพ็งทะวงสา หัวหน้าห้องว่าการ กระทรวงพลังงานและบ่อแร่ นางอุนนดา พฤฒินารากร ประธานบริษัท SCI แมนูแฟคเจอเรอร์ จำกัด ผู้ก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำผลิตกระแสไฟฟ้าของไทย นายพิสิษฐ อ้นมา ประธานบริษัท แม่โขง ไอวีเอ็ม จำกัด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการโครงการก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำน้ำตกตาดสะแลน แห่งแรกของเมืองเซโปน แขวงสะหวันนะเขต งบประมาณก่อสร้าง 300 ล้านบาท

โครงการดังกล่าวเป็นการลงทุนของผู้ประกอบการไทย 100% คือ บริษัท SCI แมนูแฟคเจอเรอร์ จำกัด กำลังการผลิต 32 เมกะวัตต์ ก่อสร้างตั้งแต่ปี 2553 แล้วเสร็จปี 2555 ทดลองใช้งานประมาณ 1 ปี จนมีความพร้อมในเรื่องระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าเพื่อขายกระแสไฟฟ้าให้ไฟฟ้าของทางการลาว ระยะเวลาสัมปทาน 30 ปี

ทั้งนี้ ในอนาคตทางการลาวยังได้ร่วมกับผู้ประกอบการไทยขยายโครงการก่อสร้างเขื่อนพลังงานน้ำผลิตกระแสไฟฟ้าที่ไร้ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าของไทยในอนาคตด้วย ซึ่งทางการลาวมีเป้าหมายปี 2662 จะมีเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำกว่า 50 แห่ง มูลค่าการก่อสร้างตั้งแต่ 3,000-4,000 ล้านบาท เพื่อก้าวไปสู่การเป็นประเทศศูนย์กลางในการผลิตพลังงานไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่แห่งเอเชียที่จะมีมูลค่าเป็นเงินปีละหลายพันล้านบาท

นายคำมะนี อินทิลาด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพลังงานและบ่อแร่ สปป.ลาว กล่าวว่า สปป.ลาวถือว่าเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการผลิตพลังงานไฟฟ้าสูง เนื่องจากมีสภาพภูมิประเทศเอื้ออำนวย บวกกับทรัพยากรธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ โดยทางรัฐบาลลาวมีนโยบายที่จะก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันมีเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำกว่า 30 แห่งที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ กำลังผลิตไฟฟ้าสูงสุด 1,000 เมกะวัตต์ และมีเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่อีก 2-3 แห่ง กำลังการผลิต 300-400 เมกะวัตต์

สำหรับเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำน้ำตกตาดสะแลน ถือเป็นความสำเร็จแรกของแขวงสะหวันนะเขต ทำให้ประชาชนบางพื้นที่ซึ่งขาดแคลนไฟฟ้าได้ใช้ไฟฟ้าส่องสว่าง ใช้ประกอบอาชีพหัตถกรรม อุตสาหกรรม รองรับการขยายความเติบโตของเมือง

และในอนาคตปี 2559 ทางการลาวจะมีเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำกว่า 30 แห่ง กำลังการผลิต 5,000 เมกะวัตต์ ปี 2662 จะมีมากกว่า 50 แห่ง กำลังการผลิตกว่า 7,000 เมกะวัตต์ โดยจะขยายโครงการต่อเนื่องไปถึงปี 2563 ทั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จของรัฐบาลลาวที่สามารถสร้างความร่วมมือในการก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำจนกลายเป็นภารกิจสำคัญที่สามารถดึงนักลงทุนจากไทยมาลงทุนเป็นเงินมหาศาล ทำให้ปัจจุบัน สปป.ลาวมีไฟฟ้าใช้ครอบคลุมพื้นที่กว่า 86%

ด้านนางอุนนดา พฤฒินารากร ประธานบริษัท SCI แมนูแฟคเจอเรอร์ จำกัด ผู้รับสัมปทานก่อสร้างเขื่อน กล่าวว่า เดิมทางบริษัทประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าครบวงจรมายาวนานกว่า 40 ปีจนเป็นที่ยอมรับของประเทศไทย ทำให้มีศักยภาพและความมั่นคงในการพัฒนาฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้านในรูปแบบอื่นๆ นอกจากการผลิตอุปกรณ์เกี่ยวกับการไฟฟ้า จนได้รับคำแนะนำจากนายพิสิษฐ อ้นมา ประธานบริษัทแม่โขง ไอวีเอ็ม จำกัด ที่มีศักยภาพในการเจรจาลงทุนกับทางการลาว จึงเป็นที่มาของการประสบความสำเร็จในการลงทุนก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำในลาวเป็นจุดแรกเพื่อขายกระแสไฟฟ้าให้ทางการไฟฟ้าลาว ระยะเวลาสัมปทาน 30 ปี และยังถือเป็นการเริ่มต้นก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำแห่งแรกของแขวงสะหวันนะเขต และจากการทดลองใช้งานมาเป็นเวลา 1 ปี สามารถผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 14.3 ล้านหน่วย และในปี 2557 คาดว่าจะสามารถผลิตได้กว่า 16.5 ล้านหน่วย มูลค่าปีละ 40-50 ล้านบาท

กำลังโหลดความคิดเห็น