ศูนย์ข่าวศรีราชา - 3 โจรเมืองพัทยา ก่อเหตุอุกอาจอุ้มเสี่ยร้านขายของเบ็ดเตล็ดย่านจอมเทียนขึ้นรถปิกอัพ ก่อนจี้ชิงทรัพย์กว่าแสน นำตัวไปปล่อยตัวทิ้งใน จ.ระยอง
วันนี้ (27 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายพิธรรทน์ ธนทัตกิตติวัฒน์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เจ้าของร้านขายของเบ็ดเตล็ดมือสอง ในซอยชัยพฤกษ์ ย่านจอมเทียน ว่า ช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา ถูกคนร้ายอุ้มขึ้นรถยนต์ก่อนทำการปล้นทรัพย์อย่างอุกอาจ
โดย นายพิธรรทน์ เล่าว่า หลังปิดร้านได้ขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านในซอยกอไผ่ โดยใช้เส้นทางลัด ระหว่างนั้นมีรถกระบะโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง ไม่ทราบทะเบียน เข้ามาประกบด้านข้างและเบียดจนรถล้ม จากนั้นคนร้ายซึ่งเป็นชาย 2 คน อายุประมาณ 25-30 ปี ได้ลงมาขอตรวจค้นยาเสพติด ก่อนชักอาวุธปืนออกมาจี้ และบังคับให้ขึ้นรถยนต์ที่มีคนร้ายอีก 1 คน ติดเครื่องรออยู่ ขับออกไปอย่างรวดเร็ว
ระหว่างทางคนร้ายได้ใช้ผ้าผูกตา พร้อมปลดเอาทรัพย์สินที่มีอยู่ในตัว ประกอบด้วย เงินสดประมาณ 10,000 บาท แหวนทองคำหนัก 1 บาท สร้อยเงินหนัก 8 บาท ราคาประมาณ 8,000 บาท นาฬิกาไซโก้ 1 เรือน ราคา 10,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง จากนั้นทำร้ายร่างกายเพื่อบังคับให้บอกรหัสบัตรเอทีเอ็ม 2 ใบ ของธนาคารแห่งหนึ่ง
โดยคนร้ายได้พาตนไปกดเงินถึง 2 ครั้ง เป็นเงิน 57,000 บาท ซึ่งไม่ทราบสถานที่ เนื่องจากถูกปิดตาอยู่ หลังจากนั้น ได้ถูกนำมาทิ้งไว้ริมถนน ต.มะขาม อ.บ้านฉาง จ.ระยอง จึงขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน และโทรศัพท์แจ้งครอบครัวให้เดินทางมารับ ก่อนเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา สาขาโค้งดงตาล ไว้เป็นหลักฐาน
นายพิธรรทน์ กล่าวว่า ที่ต้องออกมาเปิดเผยเพราะเห็นว่าการกระทำของคนร้ายค่อนข้างอุกอาจ และไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง และเกรงว่าจะมีคนตกเป็นเหยื่ออีก จึงต้องการให้สื่อมวลชนช่วยนำเสนอข่าวสาร และหากมีพลเมืองดีคนใดทราบข้อมูลขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่เจ้าหน้าที่คาดว่า กลุ่มคนร้ายน่าจะทราบความเคลื่อนไหวของผู้เสียหายเป็นอย่างดี จึงขับรถติดตามออกจากร้าน และลงมือก่อเหตุ
วันนี้ (27 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายพิธรรทน์ ธนทัตกิตติวัฒน์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เจ้าของร้านขายของเบ็ดเตล็ดมือสอง ในซอยชัยพฤกษ์ ย่านจอมเทียน ว่า ช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา ถูกคนร้ายอุ้มขึ้นรถยนต์ก่อนทำการปล้นทรัพย์อย่างอุกอาจ
โดย นายพิธรรทน์ เล่าว่า หลังปิดร้านได้ขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านในซอยกอไผ่ โดยใช้เส้นทางลัด ระหว่างนั้นมีรถกระบะโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง ไม่ทราบทะเบียน เข้ามาประกบด้านข้างและเบียดจนรถล้ม จากนั้นคนร้ายซึ่งเป็นชาย 2 คน อายุประมาณ 25-30 ปี ได้ลงมาขอตรวจค้นยาเสพติด ก่อนชักอาวุธปืนออกมาจี้ และบังคับให้ขึ้นรถยนต์ที่มีคนร้ายอีก 1 คน ติดเครื่องรออยู่ ขับออกไปอย่างรวดเร็ว
ระหว่างทางคนร้ายได้ใช้ผ้าผูกตา พร้อมปลดเอาทรัพย์สินที่มีอยู่ในตัว ประกอบด้วย เงินสดประมาณ 10,000 บาท แหวนทองคำหนัก 1 บาท สร้อยเงินหนัก 8 บาท ราคาประมาณ 8,000 บาท นาฬิกาไซโก้ 1 เรือน ราคา 10,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง จากนั้นทำร้ายร่างกายเพื่อบังคับให้บอกรหัสบัตรเอทีเอ็ม 2 ใบ ของธนาคารแห่งหนึ่ง
โดยคนร้ายได้พาตนไปกดเงินถึง 2 ครั้ง เป็นเงิน 57,000 บาท ซึ่งไม่ทราบสถานที่ เนื่องจากถูกปิดตาอยู่ หลังจากนั้น ได้ถูกนำมาทิ้งไว้ริมถนน ต.มะขาม อ.บ้านฉาง จ.ระยอง จึงขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน และโทรศัพท์แจ้งครอบครัวให้เดินทางมารับ ก่อนเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา สาขาโค้งดงตาล ไว้เป็นหลักฐาน
นายพิธรรทน์ กล่าวว่า ที่ต้องออกมาเปิดเผยเพราะเห็นว่าการกระทำของคนร้ายค่อนข้างอุกอาจ และไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง และเกรงว่าจะมีคนตกเป็นเหยื่ออีก จึงต้องการให้สื่อมวลชนช่วยนำเสนอข่าวสาร และหากมีพลเมืองดีคนใดทราบข้อมูลขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่เจ้าหน้าที่คาดว่า กลุ่มคนร้ายน่าจะทราบความเคลื่อนไหวของผู้เสียหายเป็นอย่างดี จึงขับรถติดตามออกจากร้าน และลงมือก่อเหตุ
