ศูนย์ข่าวขอนแก่น - รวบแก๊งวัยรุ่นใช้รถเก๋งจี้ชิงทรัพย์หญิงชรา-กะเทยในเวลากลางคืนในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคอีสาน ทำมาแล้วไม่น้อยกว่า 100 ครั้ง ได้เงินมากกว่า 2-3 ล้านบาท อ้างหาเงินซื้อยาบ้าเสพ และเล่นเกม ล่าสุด คืนเดียวก่อเหตุ 3 ราย ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ผู้เสียหายรุมชี้เอาผิด
เมื่อเวลา 14.10 น. วันนี้ (7 ต.ค.) ที่ บช.ภ.4 พล.ต.ท.อนุชัย เล็กบำรุง ผบช.ภ.4 พร้อมด้วยนายตำรวจหลายนายร่วมกันแถลงข่าวจับกุมกลุ่มวัยรุ่นตระเวนปล้นทรัพย์ในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคอีสานตอนบน
ผู้ต้องหาประด้วย 1.นายมนตรี (เปิ้ล) แย้มสุข อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/ 1 หมู่ 7 ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น อดีตเคยติดคุกอยู่ในเรือนจำกลางขอนแก่นข้อหาครอบครองยาเสพติดเพื่อขาย 2.นายมอส (นามสมมติ) อายุ 16 ปี 3.นายโต้ง (นามสมมติ) 4.น.ส.ติ๋ม (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ทั้งหมดพักอาศัยอยู่ใน อ.บ้านไผ่ และ อ.เมืองขอนแก่น
ในการแถลงข่าวครั้งนี้ มีผู้เสียหาย 4 ราย ชี้ยืนยันให้ดำเนินคดีในข้อกล่าวหาว่าร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ พร้อมกับของกลาง ซึ่งมีรถยนต์เก๋งโตโยต้า รุ่นยารีส สีขาว หมายเลขทะเบียน กบ 8502 ขอนแก่น เป็นรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ไอ สีฟ้า-ชมพู ทะเบียน 1 กก 2155 ขอนแก่น จำนวน 1 คัน คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง สร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง จำนวน 1 เส้น โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 4 สีดำ จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง สีดำ จำนวน 1 เครื่อง และแผ่นป้ายทะเบียนรถ จยย.ทะเบียน 1 กก 2155 ขอนแก่น จำนวน 1 แผ่น
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ได้รับแจ้งมีเหตุแก๊งวัยรุ่นขับขี่รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยารีส สีขาว ออกตระเวนปล้นทรัพย์ในพื้นที่ อ.เมืองขอนแก่น คืนเดียวไม่ต่ำกว่า 3 คดี ซึ่งมีผู้เสียหายถูกปล้นคือ 1.นางสมร ทับซ้าย อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 หมู่ 10 บ้านหว้า ต.บ้านหว้า อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้รถจักรยานยนต์ไป 1 คัน 2.นายพงษ์ศปณต ชาญโชคประเสริฐ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 ถ.ชวนชื่น ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ได้โทรศัพท์ไป จำนวน 2 เครื่อง
และนายวัชระพล ทองบุญ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147/1 หมู่ 2 ต.บ้านเหล่า อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ได้รถจักรยานยนต์ไป 1 คัน โทรศัพท์ 1 เครื่อง
นอกจากนี้ กลุ่มผู้ต้องหายังตระเวนจี้ชิงทรัพย์ผู้เสียหายอีก 2 ราย ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งได้สร้อยคอทองคำ 2 สลึง 1 เส้น คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 ตัว โดยใช้เวลากลางคืนในช่วงคืนวันที่ 6 ต.ค.คาบเกี่ยวคืนวันที่ 7 ต.ค.นี้
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ประสานไปกับ สภ.บ้านไผ่ สภ.ชนบท และ ภ.จว.ขอนแก่น บก.สส.ภ.4 ติดตามไล่ล่าอย่างกระชั้นชิด จนทราบว่า นายมนตรี พร้อมกับผู้ต้องหาอีก 3 คน หลบหนีไปทาง อ.ชนบท และจอดรถยนเก๋งอยู่ที่หน้าร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ถ.แจ้งสนิท ต.ชนบท จึงได้พากันออกสกัดจับ
โดยจับผู้ต้องหาที่เป็นเด็กแว้นได้ในรถยนต์ทั้ง 3 คน ส่วนนายมนตรี ได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในโรงพยาบาลชนบท และไปออกทางด้านหลังก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ดังกล่าว
พล.ต.ท.อนุชัย กล่าวหว่า ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา ในเขตพื้นที่ สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น นายมนตรี พร้อมกับแก๊งวัยรุ่นชุดดังกล่าวได้เข้าไปที่บ้านของนางจิตนาพร เศษสุวรรณ์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 385 หมู่ 1 หมู่บ้านเอกลักษณ์ ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ซึ่งนางจิตนาพร เป็นข้าราชการครูในโรงเรียนนาโน อ.บ้านไผ่
ซึ่งแก๊งของนายมนตรี ได้เข้าไปทำร้ายร่างกาย พร้อมกับมัดมือ/มัดเท้า และโจรกรรมรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว พร้อมสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท สร้อยข้อมือทองคำหนัก 1 บาท พระหลวงพ่อคูณเลี่ยมทองคำหนัก 1 สลึง จำนวน 1 องค์ แหวนทองคำลายขีดเล็กๆ หนัก 2 สลึง 1 วง โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ใบโฉนดที่ดิน ทรัพย์สินในขณะนั้นประมาณ 1 ล้านบาท
หลังจากนั้น นายมนตรี ได้ยอมรับสารภาพต่อพนักงานสอบสวนว่า หลังจากออกจากคุกในขอนแก่นมาไม่มีงานทำจึงได้ลักลอบขายยาบ้าเช่นเดิม โดยชักชวนแก๊งเด็กแว้นเข้าร่วมกลุ่มด้วยและเช่ารีสอร์ตอยู่ใน อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ซึ่งพวกนายมนตรี จะพากันตระเวนลักทรัพย์ในเขตพื้นที่ภาคอีสานตอนบน มี จ.อุดรธานี หนองคาย กาฬสินธุ์ มหาสารคาม และ จ.ขอนแก่น
เมื่อได้ทรัพย์สินมาแล้วก็มาแบ่งกันที่รีสอร์ตใน อ.ชนบท จ.ขอนแก่น จากนั้นก็พากันไปหาซื้อยาบ้า และพากันเล่นเกม
การไปจี้ชิงทรัพย์ทุกครั้งพวกเราจะทำงานตอนกลางคืน โดยมองหาเหยื่อที่เป็นหญิงชรา หรือเป็นกะเทย โดยใช้อาวุธปืนปากกา และมีดปลายแหลม พร้อมกับใช้รถยนต์เก๋งตระเวนไปตามจังหวัดต่างๆ เมื่อได้ทรัพย์สินมาแล้วก็ไปหาขายในราคาถูก ถ้าเป็นรถจักรยานยนต์ ก็มาถอดอะไหล่ขาย
โดยขโมยทรัพย์สินใน จ.ขอนแก่น ไปขาย จ.อุดรธานี หรือจากมหาสารคาม มาขายใน จ.อุดรธานี ซึ่งทำมาแล้วไม่น้อยกว่า 100 ครั้ง ได้เงินมากกว่า 2-3 ล้านบาท และมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ทั้งแก๊งดังกล่าว
