ศูนย์ข่าวศรีราชา - สืบสวนโรงพักหนองปรือ ตามรวบแก๊งยานรกอุ้มฆ่าหนุ่มเดนคุกทิ้งศพในป่าอ่างเก็บน้ำมาบประชัน เค้นสอบสารภาพรับใบสั่งฆ่าจากในคุกเรือนจำอยุธยา
วันนี้ (23 ธ.ค.) พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมกำลังตำรวจ สภ.หนองปรือ ร่วมแถลงข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าคนตาย ประกอบด้วย นายวิทยา ธิตะปัญ หรือฉายาเล็ก กอไผ่ อายุ 30 ปี นายเอกพล นายธีระพงษ์ อายุ 30 ปี และนายวิทวัส เหลาเคน อายุ 21 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด 11 มม. 1 กระบอก รถยนต์ฮอนด้า สีขาว ทะเบียน ขธ 3685 ชลบุรี ยาไอซ์น้ำหนัก 0.6 กรัม และยาบ้า 2 เม็ด โดยกล่าวหาว่าร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยมีอาวุธปืน และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์-ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา คนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. ยิงนายนัด สุวรรณขำ อายุ 29 ปี จำนวน 3 นัด เสียชีวิตบริเวณป่ายูคาลิปตัส ข้างสันเขื่อนอ่างเก็บน้ำมาบประชัน หมู่ 3 ต.หนองปรือ โดยแนวทางการสืบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตาย และภรรยาขับรถจักรยานยนต์ออกไปหานายวิทยา ที่ซอยสุขุมวิท-พัทยา 44 หลังจากนั้นก็มีรถเก๋งฮอนด้า สีขาว มาจอดเทียบข้าง และมีคนร้ายอุ้มผู้ตายขึ้นรถหายตัวไปก่อนจะมาพบศพ ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวนายวิทยา และ นายเอกพลได้ ก่อนขยายผลติดตามจับกุมเพื่อนร่วมแก๊งได้ยกทีม
จากการสอบสวนนายวิทยา หรือ “เล็ก กอไผ่” หัวหน้าแก๊ง ให้การรับสารภาพว่า ได้รับการติดต่อว่าจ้างเป็นเงินจำนวนหนึ่งจากนายบอยไอซ์ สาขากุล ผู้ต้องโทษเรือนจำกลางอยุธยา ให้สังหารนายนัด เนื่องจากถูกเบี้ยวค่ายาบ้า จึงร่วมกับพวกวางแผนโทรศัพท์ลวงนายนัด ออกมาจากบ้านแล้วก่อนพากันขับรถยนต์ไปยังที่เปลี่ยว ห่างจากอ่างเก็บน้ำประมาณ 100 เมตร ก่อนใช้อาวุธปืนยิงนายนัด ซึ่งกำลังเปิดประตูรถพยายามจะวิ่งหนี จนกระสุนนัดสุดท้ายเจาะเข้าที่ใต้ตาซ้ายในระยะเผาขนเสียชีวิตคาที่ หลังก่อเหตุทั้งหมดจึงพากันแยกย้ายหลบหนีไป จนมาถูกตำรวจตามจับกุมตัวได้ในที่สุด
ด้าน พล.ต.ต.คัชชา กล่าวว่า ในการจับกุมครั้งนี้เกิดจากการหักหลังการค้าเสพติด โดยผู้ตายได้นำยาเสพติดของนายบอยไอซ์ สาขากุล ผู้ต้องโทษเรือนจำกลางอยุธยา ไปขาย แต่ไม่ยอมนำเงินที่ค้ายาได้มาคืนให้ นายบอยไอซ์ จึงแค้นใจ และได้จ้างวานนายวิทยา จัดหามือปืน และทีมสังหารมือฆ่าผู้ตาย และได้โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และเงินสดอีกจำนวนหนึ่งของผู้ตายติดมือไปเพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ว่าเป็นการชิงทรัพย์ก่อนหลบหนีไป