ขอนแก่นเข้มลดอุบัติเหตุเทศกาลปีใหม่ ห้ามเมาขับ-รถบรรทุกใหญ่วิ่ง

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - จังหวัดเข้มมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน กำหนด 10 มาตรการรับมือปีใหม่ ตั้งจุดตรวจเน้นสกัดคนเมาไม่ขับ มั่นใจลดสถิติผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตลง พร้อมขอความร่วมมือรถบรรทุกอ้อย-น้ำมัน-ขนดิน หยุดวิ่งตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่

วันนี้ (23 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัด เรียกประชุมด่วนคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ประจำปี 2557 เพื่อรับทราบถึงแนวทางการดำเนินงานและแผนปฏิบัติการเชิงรุกตามนโยบายของรัฐบาล และการประกาศบังคับใช้ในพื้นที่ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

นายสมศักดิ์กล่าวว่า การบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ระยะเวลาดำเนินงานในระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 56 ถึง 2 ม.ค. 57 รวม 7 วัน ทุกหน่วยงานจะร่วมมือลดจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุ ผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตลงให้ได้ร้อยละ 5 โดยปีที่ผ่านมาภาพรวมทั้ง 26 อำเภอมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 47 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 51 ราย แผนงานในปีนี้ที่จะต้องสอดรับกับนโยบายของรัฐบาล “ปีใหม่สัญจรปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุ” โดยจังหวัดขอนแก่นจะต้องมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นไม่เกิน 44 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 48 คน และต้องมีผู้เสียชีวิตไม่เกิน 9 คน

จังหวัดได้กำหนด 10 มาตรการให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ประกอบด้วย ไม่สวมหมวกนิรภัย มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย เมาสุรา ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่มีใบขับขี่ ความเร็วเกินกำหนด ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร ขับรถย้อนศร แซงในที่คับขัน และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ จะบังคับใช้ครอบคลุมรถทุกชนิด เน้นหนักกับรถจักรยานยนต์ รถโดยสารสาธารณะ และรถกระบะที่บรรทุกผู้โดยสารเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

ขณะเดียวกันให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการและสั่งการในระดับอำเภอและตำบลเพื่อลดขั้นตอนการสั่งงานและสามารถแก้ไขปัญหา หรือให้ความช่วยเหลือประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ครบถ้วน ทั้งขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการรถบรรทุกประเภทสิบล้อ และรถเทรลเลอร์ ทั้งรถบรรทุกอ้อย สินค้าประเภทต่างๆ น้ำมัน และรถบรรทุกดิน ห้ามวิ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้

สำหรับปัญหาการขับขี่รถขณะเมาสุราเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ ปีนี้จะเน้นหนักคุมกำเนิดคนเมา ห้ามขับรถยนต์และรถจักรยานยนต์อย่างเด็ดขาด โดยให้ อปพร. ตำรวจ และผู้นำชุมชนตรวจสอบอย่างเข้มข้นทั้งในถนนสายหลักและสายรอง และให้ตั้งจุดตรวจผู้กระทำความผิด เรียกตรวจสภาพความพร้อมของผู้ขับขี่

รวมไปถึงตั้งจุดตรวจเพื่อให้บริการประชาชน ยังคงกำหนดในพื้นที่อำเภอรอบนอกอำเภอละ 2 จุด และเขต อ.เมืองอีก 7 จุด รวม 57 จุดตลอด 24 ชั่วโมง และขอความร่วมมือไปยังผู้ใช้รถใช้ถนนให้เพิ่มความระมัดระวัง เตรียมความพร้อมร่างกาย โดยผู้ขับขี่ยานพาหนะสามารถขอรับบริการด้านต่างๆ ได้ที่จุดบริการประชาชนทุกจุด