จันทบุรี - อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี เริ่มขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้หลังสภาพอากาศเริ่มแห้งแล้ง เจ้าหน้าที่ต้องนำรถบรรทุกน้ำออกแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว
วันนี้ (19 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีชาวบ้านในพื้นที่ตำบลทรายขาว อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี กำลังได้รับความเดือดร้อนในเรื่องของการขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้มานานกว่า 1 สัปดาห์ โดยชาวบ้านต้องซื้อน้ำมาใช้ในการดื่มใช้กินกันเอง จึงขอให้ผู้สื่อข่าวช่วยเสนอข่าวถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบลงมาช่วยเหลือชาวบ้านเป็นการเร่งด่วน
หลังรับแจ้ง ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พบชาวบ้านตำบลทรายขาว จำนวนมากนำถังน้ำ และภาชนะที่ใส่น้ำมารอรับน้ำจากเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทรายขาว ที่นำรถบรรทุกน้ำกินน้ำใช้นำมาแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้าน ซึ่งพบว่าพื้นที่ตำบลทรายขาว ทั้ง 13 หมู่บ้าน 3,000 ครัวเรือน ประสบปัญหาภัยแล้ง และขาดแคลนในเรื่องของน้ำกินน้ำใช้มานานกว่า 1 สัปดาห์ ชาวบ้านต้องมีการซื้อน้ำกินน้ำใช้เอง
สำหรับพื้นที่อำเภอสอยดาว เป็นพื้นที่ที่ประสบปัญหาในเรื่องของภัยแล้งเป็นประจำทุกปี เนื่องจากแหล่งน้ำที่นำมาผลิตเป็นน้ำประปาไม่สามารถที่จะดูดมาทำน้ำดื่มน้ำใช้ให้แก่ชาวบ้านได้ ทำให้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลทรายขาว ต้องมีการนำรถบรรทุกน้ำมาวิ่งแจกจ่ายน้ำให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ตลอดทั้งวัน ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของชาวบ้าน เพราะรถบรรทุกน้ำมีเพียง 2 คันเท่านั้น และเจ้าหน้าที่ต้องออกไปเอาน้ำนอกพื้นที่ในตำบลอื่นๆ แทน
ล่าสุด ทางองค์การบริหารส่วนตำบลทรายขาว ได้มีการประสานขอรถน้ำจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 17 จันทบุรี เข้ามาช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว และเข้าดำเนินการขุดเจาะบ่อน้ำตื้นเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านได้มีน้ำใช้ในการบรรเทาทุกข์ และความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านเป็นการเฉพาะหน้าไปก่อน พร้อมเตรียมประสานหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดจันทบุรี ให้เข้ามาช่วยเหลือในการบินทำฝนหลวงในพื้นที่เป้าหมายที่ชาวบ้านร้องขอมา โดยเฉพาะในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อำเภอสอยดาว และอำเภอโป่งน้ำร้อน
นายสวย อัตทะสี อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลข 1 หมู่ที่ 10 ตำบลทรายขาว อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า สถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้รุนแรง และหนักกว่าทุกปีที่ผ่านมา ชาวสวน และชาวบ้านต้องซื้อน้ำใช้กันแล้ว เนื่องจากฝนทิ้งช่วงนาน และแหล่งน้ำในคลองธรรมชาติแห้งขอด ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนมาก วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาทางช่วยเหลือโดยด่วน