ภัยแล้งจันทบุรีสร้างความเดือดร้อนแก่เกษตรกรหนักขึ้น

จันทบุรี - สถานการณ์ภัยแล้งจังหวัดจันทบุรี ยังน่าห่วง หลังฝนทิ้งช่วง ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำลดลง กระทบต่อเกษตรกรชาวสวนผลไม้ต้องหาน้ำมารดเพื่อพยุงไม่ให้ผลผลิตเสียหาย

จากกรณีที่เกิดฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน ทำให้สถานการณ์ภัยแล้งที่จังหวัดจันทบุรี ที่ทางจังหวัดได้ประกาศให้ 9 อำเภอ จาก 10 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบปัญหาภัยพิบัติแล้งนั้น สถานการณ์ภัยแล้งยังไม่คลี่คลายทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บกักน้ำ เขื่อน และคลองธรรมชาติเริ่มมีปริมาณน้ำลดน้อยลง แม้จังหวัดจันทบุรี จะมีการประสานให้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงจันทบุรี เข้ามาช่วยในการบินโปรยสารเคมีบินช่วยเหลือเกษตรกรที่รับความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้งก็ตาม แต่ปริมาณฝนหลวงที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงได้ขึ้นบินยังมีปริมาณฝนที่น้อยอยู่

ในช่วงนี้เกษตรกรชาวสวนต้องการน้ำมากในการเข้ามาบำรุงดูแลรักษาต้น เพราะเนื่องจากผลผลิต ไม่ว่าจะเป็น มังคุด ลองกอง เงาะ ลำไย และทุเรียน ที่เป็นผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดจันทบุรี กำลังให้ผลผลิต และใกล้ที่จะเก็บเกี่ยวได้ใน 1-2 เดือนนี้ กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการขาดแคลนน้ำ ทำให้เกษตรกรชาวสวนบางรายต้องมีการนำน้ำจากบ่อดินขึ้นมาในการรดน้ำสวนผลไม้เพื่อเป็นการพยุงไม่ให้ผลผลิตได้รับความเสียหาย

นอกจากนั้น ทางจังหวัดได้มีการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเทศบาลในแต่ละท้องที่ให้การช่วยเหลือชาวบ้าน และเกษตรกรอย่างเร่งด่วนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการนำรถบรรทุกน้ำวิ่งแจกจ่ายน้ำให้แก่เกษตรกร และชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน หรือการจัดเครื่องสูบน้ำเข้าช่วยเหลือในการดูดน้ำมาให้แก่เกษตรกร และชาวบ้าน

นอกจากนี้ ได้มีการจัดทำฝายชะลอน้ำเพื่อชะลอน้ำให้เกษตรกร และชาวบ้านได้มีน้ำใช้ได้อย่างเพียงพอ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทางจังหวัดได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนแล้ว

เกษตรกรชาวสวนต้องการน้ำมากเพราะสวนเยอะน้ำไม่ค่อยจะมี ทางเทศบาลก็เข้ามาช่วยเหลือโดยการนำรถแบ็กโฮมากั้นคลองให้สามารถบรรเทาความเดือดร้อนไปได้ในระดับหนึ่ง ปีนี้น้ำไม่ค่อยพอใช้แม้ทางเกษตรกรจะมีการขุดบ่อเก็บกักน้ำไว้ใช้เองแต่น้ำก็ไม่พอ ทั้งนี้ ในช่วงฤดูแล้งแล้งก็จะประสบปัญหาภัยแล้งอย่างนี้ทุกปี คือ เกษตรกรชาวสวนต้องการน้ำอย่างเดียวเท่านั้น