เผย “ไอ้หนุ่ย” เคยถูกจับยัดคุกเพราะขืนใจเด็กในหมู่บ้าน พ้นคุกเมียไล่หนี

ศูนย์ข่าวขอนแก่น- เผยฆาตกรต่อเนื่อง “ไอ้หนุ่ย” หรือ ติ๊งต่าง เป็นเด็กเร่ร่อนถูกเก็บมาเลี้ยง เคยถูกจับเข้าคุกข้อหาข่มขืนเด็กมาแล้ว แต่ไม่เข็ดก่อพฤติกรรมซ้ำ เลือกเฉพาะเด็กที่พลัดหลงจากผู้ปกครอง

จากกรณี นายหนุ่ย หรือ ติ๊งต่าง ฆาตกรโหดถูกจับกุมหลังข่มขืนน้องการ์ตูนจนเสียชีวิต และรับสารภาพเคยกระทำกับเด็กนับ 10 ราย ล่าสุด วันนี้ (17 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบบ้านเลขที่ 87 หมู่ 2 บ้านเปือย ต.เปือยน้อย อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านที่นายหนุ่ยเคยพักอาศัย พบว่าเป็นบ้านเพิงปูนต่อเติม ถูกปิดตายหลายปี

สอบถาม นายสมศักดิ์ ทองจันทร์ฮาด ผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า บ้านดังกล่าวเป็นนางบุญจันทร์ ขันติ ภรรยาของผู้ต้องหา ซึ่งตอนนี้ได้ปล่อยทิ้งร้างไม่มีคนอาศัยอยู่ เพราะเจ้าของบ้านได้อพยพไปค้าขายอาหารหลังสวนจตุจักร นานๆ กลับมาครั้ง

สำหรับประวัตินายหนุ่ย หรือ ติ๊งต่าง เป็นเด็กเร่ร่อน อายุราว 9 ปี อาศัยอยู่กรุงเทพฯ กระทั่งพ่อลอง และพิน จันหาบาง ตอนนี้เสียชีวิตแล้ว เข้าไปทำงานกรุงเทพฯ พบเข้าจึงเก็บมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม โดยเดินทางไป-มา อ.เปือยน้อย กับกรุงเทพฯ ช่วงเทศกาลบ่อยครั้งจนชาวบ้านรู้จักคุ้นเคย

เมื่ออายุ 15 ปี ได้บวชสามเณรได้ไม่นาน จึงสึกออกมาเป็นเด็กวัด ด้วยนิสัยเป็นคนใช้งานง่าย ขยันทำมาหากิน มีนิสัยชอบคลุกคลี่เด็กผู้หญิง และซื้อขนมแจกเด็ก ชาวบ้านจึงไว้ใจ ต่อมาชาวบ้านแนะนำให้แต่งงานกับนางบุญจันทร์ แม่หม้ายลูกสอง เพราะเห็นว่าเป็นคนดี ขยัน อีกทั้งมาช่วยเลี้ยงลูกด้วย โดยไม่คิดค่าสินสอดใดๆ อยู่กินกันมาเรื่อยๆ

กระทั่งปี 2551 นายหนุ่ย และภรรยา ได้ไปเที่ยวงานประจำปีของอำเภอ อาศัยช่วงภรรยาเผลอ พาเด็กวัย 6 ขวบ จากหมู่บ้านใกล้เคียงไปกระทำการข่มขืนเด็กข้างคลองน้ำจนสำเร็จความใคร่ นึกว่าเด็กเสียชีวิตแล้วจึงโยนทิ้งลงน้ำเพื่ออำพรางคดี

แต่โชคดีเด็กไปติดกิ่งไม้และยังมีชีวิต ชาวบ้านพบเห็นจึงช่วยไว้ได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวและยอมรับสารภาพ พร้อมแจ้งดำเนินคดีข้อหาพรากผู้เยาว์และทำอนาจารเด็กไม่เกิน 15 ปี

นายกรรพฤกษ์ ไม้เรียง ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอพล เล่าว่า นายหนุ่ย หรือ ติ๊งต่าง ถูกศาลมีคำพิพากษาคดีหมายเลขแดง ที่ 990/2551 เริ่มจำคุกตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2551 กระทั่งในวันที่ 24 สิงหาคม 2555 ถูกปล่อยตัวพร้อมขอรับใบบริสุทธิ์ ระหว่างที่ถูกคุมขังไม่มีญาติมาเยี่ยมแต่อย่างใด

ทั้งนี้หลังจากนายหนุ่ย หรือ ติ๊งต่าง ออกจากเรือนจำได้กลับไปหาภรรยาที่ อ.เปือยน้อย แต่ภรรยาไม่ยอมให้อยู่ด้วย จึงเลิกกัน โดยอาศัยอยู่กับคนรู้จักกันและพยายามขอให้ผู้ใหญ่บ้านทำบัตรประจำตัวประชาชน แต่ได้รับการปฏิเสธ อาศัยพักอยู่ได้ 1 อาทิตย์ ชาวบ้านสุดทนกับพฤติกรรมชอบตีสนิทกับเด็กผู้หญิง จึงได้ถูกขับไล่หนีออกจากหมู่บ้าน

หลังจากนั้นน ายหนุ่ย จึงตระเวนเดินทางรับจ้างเป็นเด็กขนเครื่องวงดนตรีคณะไหมไทย กระทั่งชาวบ้านทราบข่าวว่ามาก่อเหตุสลดดังกล่าว