“คำรณวิทย์” แถลงข่าวจับกุม “ไอ้หนุ่ย” คนร้ายบ้ากามฆ่าข่มขืน “น้องการ์ตูน” สารภาพหน้าตาเฉยก่อเหตุข่มขืนเด็กมานนับ 10 ครั้ง มีฆ่าตาย 4 ครั้ง เพิ่งถูกตำรวจจับได้แค่ 2 ครั้ง เผยเน้นเลือกเฉพาะเด็กหญิงอยู่โดดเดี่ยว อายุ 12-14 ปี
"คำรณวิทย์"แถลงข่าวจับกุม "ไอ้หนุ่ย" คนร้ายบ้ากามฆ่าข่มขืน "น้องการ์ตูน" สารภาพหน้าตาเฉยก่อเหตุข่มขืนเด็กมานับ 10 ครั้ง มีฆ่าตาย 4 ครั้ง เพิ่งถูกตำรวจจับได้แค่ 2 ครั้ง เผยเน้นเลือกเฉพาะเด็กหญิงอยู่โดดเดี่ยวอายุ 12 -13 ปี
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (16 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัตชย์ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รองผบช.น. พล.ต.ต.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ ผบก.น.5 และพ.ต.อ.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผกก.สน.บางนา ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม ตัวนายหนุ่ย หรือติ๊งต่าง ไม่ทราบนามสกุล อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่ 693/2556 ลงวันที่ 15 ธ.ค.56 หลังจากก่อเหตุลักพาตัว น้องการ์ตูน (นามสมมุติ) อายุ 6 ขวบไปฆ่าข่มขืนบริเวณป่ารกร้างติดสถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง บางนา เมื่อเวลา 23.00 น. ของวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพคนร้ายได้ว่าพบชายต้องสงสัยเดินจูงมือน้องการ์ตูนผ่านบริเวณสถานนีรถไฟฟ้าแบริ่ง หลังจากนั้นทางตำรวจได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ท่าบ่อ จ.หนองคายจนสามารถจับตัวคนร้ายได้ เบื้องต้นนายหนุ่ยหรือติ๊งต่างให้การรับสภาพ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนในการพิสูจน์ซากเพื่อเป็นการยืนยันว่าศพที่พบนั้น เป็นศพของน้องการ์ตูนจริงหรือไม่ เพราะคดีดังกล่าวเป็น คดีที่สะเทือนขวัญประชาชน
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบ สวนขยายผลต่อไปเพราะคนร้ายมีประวัติในการพรากผู้เยาว์และเพิ่งพ้นโทษในคดีเดียวกัน โดยตอนนี้พบว่านายหนุ่ยหรือติ๊งต่าง เคยก่อคดีในลักษณะเดียวกันมาแล้ว 10 ครั้ง โดยข่มขืนแล้ว ฆ่า 4 ศพ ซึ่งก่อเหตุในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน คือ จ.เลย และ จ.ขอนแก่น ส่วนอีก 6 ราย ได้ทำการข่มขืนและปล่อยตัวกลับไป ซึ่งจากการประสานไปยังเจ้าหน้าที่ใน พื้นที่ทราบว่าเกิดการก่อเหตุลักษณะดังกล่าวจริง และเหยื่อส่วนใหญ่เป็นเยาวชนอายุ 12-13 ปี โดยขอให้ผู้ปกครองที่เคยไปแจ้งความในพื้นที่จังหวัดไหนก็ตาม ได้มาทำการยืนยัน และติดต่อมาที่ บช.น.ด้วย
พ.ต.อ.สุพิไชย ลิ่มศิวะวงศ์ นายแพทย์(สบ.5) กลุ่มงานนิติพยาธินิติเวช รพ.ตร. กล่าวว่า จากหลักฐานที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งมาตรวจพิสูจน์นิติวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วย กะโหลกศีรษะ กระดูกสันหลัง 1 ท่อน และกระจุกเส้นผมนั้น ความคืบ หน้าจากการตรวจพิสูจน์ศพอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบเพื่อยืนยันตัวบุคคลจากดีเอ็นเอ จากฟันที่ติดกับกระโหลกศีรษะของศพ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 วันในการ ตรวจพิสูจน์ รวมถึงการตรวจจากเศษกระดูกสันหลังด้วย ทั้งนี้ ในส่วนของกะโหลก ศีรษะที่กำลังตรวจพิสูจน์อยู่นั้น มีลักษณะที่เข้าได้กับกะโหลกศีรษะของเด็ก จากฟันกรามแท้ซี่ที่ 1 ซึ่งบ่งบอกอายุได้ว่าอยู่ในช่วงอายุ 6-7 ปี ส่วนซากศพนั้นอาจจะ ถูกสัตว์กัดแทะ
ด้านนายหนุ่ย หรือติ๊งต่าง กล่าวว่า ตนขอรับสารภาพผิดทุกอย่างว่าได้กระทำการดังกล่าวจริง จะเลือกเหยื่อเป็นเด็กอายุระหว่าง 12-13 ปี ที่เดินคนเดียวไม่มีพ่อแม่อยู่ด้วย ซึ่งในวันเกิดเหตุตนได้พบน้องการ์ตูนอยู่ที่รถของพ่อคนเดียว จึงได้เข้าไปพูด คุยและถามหาว่าพ่อแม่ไปไหน โดยน้องการ์ตูนได้ตอบกลับมาว่าพ่อแม่เข้าไปดูคอนเสิร์ตหมอลำอยู่ ตนจึงออกอุบายชวนไปซื้อขนมที่ร้านสะดวกซื้อและชวนน้องไป ส่วนที่ตนต้องเลือกเหยื่อเป็นเด็กนั้น เพราะตนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ พอเห็น แล้วจะเกิดอารมณ์ทางเพศ โดยก่อนเกิดเหตุตนได้ทำการดื่มสุราจนเมา และอยากจะขอโทษพ่อแม่ของน้องด้วยที่ทำเกินไป
ด้านนายสายันต์ อายุ 32 ปี บิดาของน้องการ์ตูน กล่าวว่าขอ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ช่วยในการติดตามและจับกุมตัวคนร้ายจนได้ ส่วนตนคงทำได้เพียงแค่ทำใจในเหตุการณ์นี้ ตนขอพูดแค่นี้พอ
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวง ยุติธรรม ได้เดินทางมามอบเงินจำนวน 100,000 บาท เพื่อเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวของน้องการ์ตูน พร้อมทั้งขอให้ผู้ปกครองช่วยกันดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ทางกรมคุ้มครองสิทธิฯ มีกฎหมายในการคุ้มครองและช่วยเหลือเยียวยาแก่เหยื่อที่ถูกทำร้ายทางร่างกาย อาชญากรรมและเพศ โดยสามารถเรียกร้องได้ที่กรมคุ้ม ครองสิทธิฯได้ หากเหยื่อเสียชีวิตทางกรมก็จะมอบเงินเยียวยาให้ศพละ 100,000 บาท แจ้งเหตุผู้ต้องหาไร้นามสกุล
ต่อมาเมื่อเวลา 16.30 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ สว.สส.สน.บางนา เผยถึงกรณีที่นายหนุ่ยหรือติ๊งต่าง ผู้ต้องหาฆ่าข่มขืนน้องการ์ตูนว่า เกิดจากการที่ นายหนุ่ย เป็นเด็กกำพร้าไม่มีพ่อแม่หรือญาติพี่น้องในวงศ์ตระกูลเดียวกัน ที่ผ่านมาตั้งแต่นายหนุ่ยยังแบเบาะก็มีพ่อและแม่บุญธรรมซึ่งเป็นชาว ต.เปือยใหญ่ อ.โนนศิลา จ.ขอนแก่น โดยทั้งคู่ได้รับมาอุปการะกระทั่งโตขึ้นมาพ่อและแม่บุญธรรมก็เสียชีวิต จากนั้นนายหนุ่ย ก็ใช้ชีวิตในสังคมเพียงลำพังจนตกเป็นผู้ต้องหาถูกส่งเข้าสถานสงเคราะห์และเรือนจำ เบื้องต้นจนถึงขณะนี้เจ้าตัวก็ไม่มี แม้แต่บัตรประชาชนและเลขที่บัตรประชาชน มีเพียงเอกสารบางชิ้นเช่น ประกาศนียบัตรอบรมวิชาลูกเสือเนตรนารีหรือหนังสือรับตัวผู้ต้องขังจากเรือนจำ อ.พล จ.ขอนแก่น เท่านั้นที่ระบุชื่อ นายหนุ่ย หรือ ติ๊งต่าง แต่ไม่ระบุนามสกุลเช่นเดียวกัน
