พ่อแม่ร่ำไห้! พบเสื้อ-ชิ้นส่วนกระดูก “น้องการ์ตูน”

ตำรวจระดมกำลังหาน้องการ์ตูน วัย 6 ขวบ ที่ถูกคนร้ายลักพาตัว ใกล้สถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง นานเกือบ 2 สัปดาห์ ล่าสุดพบกะโหลกศีรษะมนุษย์ และเสื้อยืด-กางเกงขาสั้น ตกอยู่ในป่าละเมาะ ขณะพ่อ-แม่เด็กมาถึงต่างร่ำไห้ ขอโทษที่ดูแลลูกไม่ดี! ขณะตำรวจหนองคายจับกุมชายต้องสงสัย เค้นสอบปากคำ เบื้องต้นรับสารภาพ รอแถลงข่าวพรุ่งนี้

วันนี้ (15 ธ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. พ.ต.อ.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผกก.สน.บางนา พร้อมด้วย พ.ต.ท.ภาสกร รัตนปนัดดา รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ สว.สส.พ.ต.ท.ธีรยุทธ ใหม่แปลง สว.สส.พร้อมด้วยสุนัขตำรวจ เข้าตรวจค้นภายในพื้นที่รกร้างข้างซอยสุขุมวิท 105 (ซอยลาซาล) ถนนสุขุมวิท แขวงและเขตบางนา กทม.อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบหาชิ้นส่วนมนุษย์ กรณีสืบเนื่องจาก ด.ญ.อธิตยา เพ็ชรดอน หรือน้องการ์ตูน อายุ 6 ขวบ ถูกคนร้ายลักพาตัวไป ขณะไปเที่ยวกับพ่อที่คอนเสิร์ตลูกทุ่ง ย่านซอยลาซาล ใกล้สถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง ตั้งแต่กลางดึกคืนวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ สน.บางนา ได้ลงพื้นที่สืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย จนกระทั่งพบภาพวงจรปิดจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสแบริ่ง จับภาพคนร้ายเป็นชายสวมเสื้อยืดสีดำ มีสกรีนที่บริเวณหน้าอกเสื้อ นุ่งกางเกงขาสามส่วน สูงประมาณ170-175 ซม.ศีรษะเถิก จูงน้องการ์ตูนเดินอยู่บนสถานีรถไฟฟ้า ก่อนที่กลางดึกที่ผ่านมา จะพบชิ้นส่วนกะโหลกมนุษย์ กับกางเกงขาสั้น ที่น้องการ์ตูนนุ่งในวันเกิดเหตุ

จากการตรวจสอบโดยรอบพื้นที่อย่างละเอียด เจ้าหน้าที่พบเสื้อยืดสีเขียวสภาพเปื้อนคราบเลือด ถูกม้วนเป็นปม ตกอยู่ริมกำแพงห่างจากจุดที่พบกะโหลกศีรษะเล็กน้อย เมื่อคลี่ปมออกมาดูก็พบว่า เป็นลายภาพละคร “ป่านางเสือ” ที่น้องการ์ตูนใส่ในวันเกิดเหตุ และห่างออกไปประมาณ 5 เมตร เจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนกระดูก ยังมีคราบเลือดและกลิ่นคาวคละคลุ้ง จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์นิติเวชจาก รพ.ตำรวจ เดินทางมาตรวจเก็บรายละเอียดที่พบทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนมอบให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวชวิทยาต่อไป

พ.ต.อ.ธวัชเกียรติ กล่าวว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนเตรียมขออนุมัติหมายจับบุคคลต้องสงสัยซึ่งเป็นชายตามภาพวงจรปิด ในข้อหาพรากผู้เยาว์ไว้ก่อน ส่วนข้อหาอื่นนั้น ต้องรอผลการชันสูตร รวมทั้งผลการตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับพ่อแม่ของน้องการ์ตูนว่า กะโหลก และชิ้นส่วนกระดูกที่พบนั้น จะเป็นของน้องการ์ตูนหรือไม่ ส่วนการติดตามจับกุมคนร้ายนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามจับกุม หลังจากได้ภาพวงจรปิดแล้ว เบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนไทย และไม่น่าจะทำเป็นขบวนการแต่อย่างใด ส่วนผู้ต้องสงสัยชาวต่างด้าวที่นำตัวไปสอบสวนเมื่อคืนที่ผ่านมานั้น ไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด แค่มานอนพักอาศัยอยู่ในบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุเท่านั้น อีกทั้งตรวจเปรียบเทียบกับกล้องวงจรปิดแล้ว ก็ไม่ตรงกันแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามหาdมีใครพบเบาะแสของคนร้ายเพิ่มเติมก็สามารถแจ้งมาที่ สน.บางนา ได้ตลอด 24 ชม.

ด้าน นางสุไพลี คงแสงบุตร หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเพื่อการฟื้นฟู มูลนิธิเพื่อการฟื้นฟูพัฒนาเด็กและครอบครัว (ฟอร์เด็ก 6) ที่คอยดูแลน้องการ์ตูนอยู่ กล่าวว่า น้องการ์ตูนอยู่กับทางมูลนิธิมาเป็นปีที่ 3 แล้ว ปกติจะเป็นเด็กค่อนข้างเงียบเรียบร้อย ไม่ค่อยกล้าแสดงออก ซึ่งทางมูลนิธิเชื่อว่า น้องการ์ตูนน่าจะถูกคนร้ายข่มขู่ หรือหลอกว่าจะพาไปซื้อขนม หรืออาจจะหลอกว่าจะพาหาแม่ เพราะแม่ไม่ได้มาดูคอนเสิร์ดด้วย ซึ่งหลังจากน้องการ์ตูนหายไป ทางมูลนิธิก็ช่วยออกตามหาตลอด ไปขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากที่ต่างๆ ก็พบว่ากล้องวงจรปิดบริเวณลานจอดรถพบว่า น้องการ์ตูนกำลังวิ่งผ่านกล้องไปเวลา 23.40 น.จากนั้นร้านเซเว่นฝั่่งตรงข้ามกับจุดเกิดเหตุก็จับภาพคนร้ายจูงน้องการ์ตูนผ่านไปเวลา 23.55 น.และกล้องตัวสุดท้ายของทาง กทม.จับภาพเอาไว้ได้ขณะลงจากสถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง ช่วงเที่ยงคืนเศษ

นางสุไพลี กล่าวต่อว่า ช่วงที่ผ่านมาจากนั้นก็มีเบาะแสมาอีกหลายทางว่า น้องถูกพาไปขอทานที่ร้านหมูกระทะบ้าง ไปอยู่ย่านแพรกษา ปากน้ำบ้าง ก็ตามไปดู แต่ก็ไม่พบแต่อย่างใด จนกระทั่งมาพบชิ้นส่วนกะโหลกกับเสื้อผ้าของน้องการ์ตูน จึงรีบมาดูทันที ทั้งนี้ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทางมูลนิธิจะสอนเด็กอยู่เป็นประจำว่าอย่าไปไหนกับคนแปลกหน้า หากถูกคนร้ายขู่บังคับก็ให้ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ หรือวิ่งหนีไปหาคนช่วยเหลือ เวลาผู้ปกครองมารับเด็กที่มูลนิธิก็จะถามเด็กตลอดว่ารู้จักคนที่มารับหรือไม่

ต่อมานายสายันต์ เพ็ชรดอน อายุ 32 ปี พ่อของน้องการ์ตูนได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ ซึ่งเมื่อ นายสายันต์ เห็นเสื้อยืดของน้องการ์ตูน ก็ถึงกับทรุดไปกองกับพื้น ร่ำไห้โฮว่า “พ่อขอโทษ พ่อไม่น่าปล่อยลูกไว้เลย ลูกกูทำอะไรให้ ถึงต้องทำกับลูกกูขนาดนี้” ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะพาออกไปสงบสติอารมณ์

นายสายันต์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ปกติลูกสาวเป็นเด็กร่าเริง แต่ไม่เคยตามคนแปลกหน้าไปไหนเลย ในคืนเกิดเหตุพาลูกสาวมาดูคอนเสิร์ตไหมไทย ที่บริเวณใกล้กับจุดเกิดเหตุ แต่ลูกสาวเกิดง่วงเลยพามานอนที่รถเพื่อน ก่อนที่ตนจะกลับเข้าไปดูคอนเสิร์ตต่อ จนกระทั่งช่วงเที่ยงคืนกลับมาที่รถก็ไม่เห็นลูกสาวแล้ว จึงช่วยกันออกตามหาลูก พร้อมทั้งไปขอดูกล้องวงจรปิดของลานจอดรถ แต่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าต้องรอวันจันทร์ ตนจึงไปแจ้งความไว้ที่ สน.บางนา หลังจากนั้นก็ออกตามหาลูกทุกวัน ไปหาทุกที่ที่มีคนแจ้งเบาะแส แต่ก็ไม่พบ จนกระทั่งเมื่อคืนมาทราบว่าพบเสื้อผ้าของลูกสาว พร้อมกะโหลกมนุษย์ จึงรีบเดินทางมาทันที ทั้งนี้ ตนอยากให้กรณีของตนเป็นตัวอย่างว่าไม่ควรปล่อยลูกไว้คนเดียวตามลำพัง ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องเสียใจอย่างที่ตนเป็นอยู่ในขณะนี้

ต่อมา น.ส.ตุ๊กตา สว่างศรี อายุ 32 ปี มารดาของน้องการ์ตูน ได้ตามมายังจุดเกิดเหตุ ซึ่งเมื่อมาถึงก็เป็นลมล้มฟุบไป ญาติต้องช่วยกันปฐมพยาบาล จากนั้น น.ส.ตุ๊กตา ได้จุดธูป 1 ดอก ที่บริเวณจุดที่พบกางเกงของน้องการ์ตูน กับเส้นผม พร้อมร่ำไห้กล่าวว่า “การ์ตูนกลับบ้านนะลูก แม่ขอโทษที่ดูแลหนูไม่ดี ขอให้ลูกไปสู่สุคติ เราคงทำบุญมาด้วยกันแค่นี้ ชาติหน้าขอให้เราเกิดมาเป็นแม่ลูกกันอีก” ก่อนที่ญาติจะต้องช่วยกันพยุงออกจากจุดเกิดเหตุ

พ.ต.อ.สมชาย สงวนศักดิ์ภักดี ผกก.สภ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เปิดเผยว่า ล่าสุดได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางนา ให้ติดตามชายต้องสงสัยในภาพ และสามารถจับกุมชายคนดังกล่าวได้ เบื้องต้นทราบว่าเป็นคนงานในคณะดนตรีชื่อดังที่จัดการแสดงในวันนั้น พร้อมทั้งผู้ต้องสงสัยไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน ทราบเพียงชื่อเล่น คือ นายหนุ่ย อายุ 32 ปี เป็นชาวขอนแก่น

จากการสอบปากคำเบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นชายในภาพดังกล่าวจริง และได้พาน้องมาฝากไว้ที่ร้านคาร์แคร์ใกล้ ๆ และปฏิเสธว่า ไม่ได้กระทำอย่างอื่นใดอีก พร้อมกันนี้ ยังพบประวัติ เคยถูกจับกุมในข้อหาพรากผู้เยาว์ ซึ่งถูกลงโทษจำคุก เมื่อปี 2551 และพ้นโทษเมื่อ วันที่ 23 ส.ค. 2555 ขณะนี้เจ้าหน้าที่ สภ.ท่าบ่อ อยู่ระหว่างสอบปากคำผู้ต้องสงสัย และจะดำเนินการประสานกับ สน.บางนา อีกครั้ง

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดผู้ต้องหายอมรับสารภาพแล้ว อ้างว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้ดื่มเหล้าขาวไป 1 ขวด ตามด้วยเบียร์ แต่ยังไม่เมาเลยเดินไปซื้อเบียร์เพิ่ม ระหว่างนั้น เดินผ่านงานคอนเสิร์ต เห็นน้องการ์ตูนนั่งอยู่ในรถคนเดียว เลยออกอุบายชวนไปซื้อขนม พอพาเดินข้ามสะพานลอยบีทีเอสแบริ่ง เห็นซอยเปลี่ยว ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุข้างร้านสะดวกซื้อ เลยลวงเด็กเข้าไป จากนั้นได้บีบคอจนหมดสติ และลงมือกระทำชำเราก่อนทิ้งเด็กเอาไว้ ไม่คิดว่าเด็กจะเสียชีวิต จากนั้นหนีไปกบดานที่บ้านญาติ กระทั่งถูกจับกุม โดยตำรวจนครบาลจะนำตัวมาแถลงข่าวอีกครั้งในวันพรุ่งนี้