เชียงราย - คาดชาวนากระเป๋าแห้งยาวถึงหลังมีนาคม 57 เหตุเงินจำนำข้าวไม่ออก เสี่ยงกระทบฐานะการเงินสหกรณ์ 1 ในแหล่งเงินกู้เกษตรกรอีก แถมข่าวลือสะพัดรัฐไม่รับจำนำข้าวสุพรรณบุรี 1 ซ้ำ
นางสมนึก เยาว์ธานี ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรแม่จัน จำกัด อ.แม่จัน จ.เชียงราย กล่าวว่า ระหว่างที่นายอนันต์ ภู่สิทธิกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เขตตรวจราชการที่ 39 ได้เดินทางไปทำการตรวจเยี่ยม และตรวจสอบการดำเนินการของสหกรณ์การเกษตรแม่จัน ที่ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานสหกรณ์ ซึ่งคณะกรรมการรวมทั้งสมาชิกสหกรณ์กว่า 30 คน ได้ร่วมให้ข้อมูล
ในการประชุมมีการหยิบยกเรื่องการจำนำข้าวซึ่งปัจจุบันทางรัฐบาลมีการชำระเงินให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำแล้วบางส่วน แต่ยังมีอีกบางส่วนที่ยังไม่ได้รับเงิน และมีแนวโน้มว่าอาจจะได้รับเงินอย่างเร็วที่สุดตั้งแต่เดือน มี.ค. 2557 เป็นต้นไปด้วย
ซึ่งปัญหาดังกล่าวแม้ไม่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์โดยตรง แต่เนื่องจากสมาชิกของสหกรณ์เป็นเกษตรกรที่ปลูกข้าว จึงอาจจะไม่สามารถนำเงินไปชำระเงินกู้และดอกเบี้ยที่มีการทำธุรกรรมกับสหกรณ์ได้ในที่สุด
นอกจากนี้พบว่ามีสมาชิกสหกรณ์ได้ยื่นเรื่องขอกู้ยืมเงินเพิ่มมากขึ้น หลังจากสหกรณ์มีการแก้ไขระเบียบข้อบังคับให้สมาชิกสามารถกู้ยืมเงินได้ในวงเงินที่สูงขึ้น ทำให้เงินทุนที่มีอยู่ของสหกรณ์ฯ ลดลง ซึ่งอาจส่งผลต่อสภาพคล่องได้
ประการสำคัญ มีข่าวลือว่ารัฐบาลจะไม่รับจำนำข้าวเจ้าพันธุ์ข้าวสุพรรณบุรี 1 ซึ่งเกษตรกรในพื้นที่กำลังจะนำไปปลูก และทางสหกรณ์ก็ได้เก็บพันธุ์ข้าวดังกล่าวเอาไว้เพื่อจำหน่ายให้ประชาชนนำไปปลูกอยู่ด้วยจำนวนประมาณ 35 ตัน หากว่าเป็นจริงก็จะส่งผลต่อการประกอบการของสหกรณ์ได้
นางสมนึกกล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการที่เกษตรกรนำข้าวไปเข้าร่วมโครงการรับจำนำและได้รับเงินล่าช้า ซึ่งเข้ามาเกี่ยวข้องกับสหกรณ์ในการชำระหนี้ในช่วงเดือน มี.ค. 57 โดยในฤดูกาลนี้คาดว่าในเดือน มี.ค. 2557 สมาชิกก็ไม่น่าจะได้รับเงินค่าจำนำข้าวจนเป็นปัญหากระทบมาถึงสหกรณ์ด้วย รวมทั้งมีข่าวลือเรื่องการไม่รับจำนำข้าวสุพรรณบุรี 1 ทำให้เกษตรกรบางส่วนที่ซื้อพันธุ์ข้าวจากสหกรณ์ทำเรื่องขอคืนเมล็ดพันธุ์อีกด้วย
ด้านนายอนันต์กล่าวว่า สหกรณ์แห่งนี้มีสมาชิกประมาณ 5,000 คน และหลังจากได้ร่วมประชุมก็ได้รับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว ตนได้แนะนำวิธีการแก้ปัญหาสภาพคล่องด้วยการหาแหล่งเงินทุนใหม่ เช่น การขอกู้ยืมเงินเพื่อนำมาพัฒนาองค์กรจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง
ส่วนประเด็นเรื่องพันธุ์ข้าวสุพรรณบุรี 1 นั้นปกติเกษตรกรจะนำไปปลูกช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.นั้น พบว่าสามารถนำไปปลูกในพื้นที่ได้กว่า 30,000-40,000 ไร่ หากเกิดปัญหาจริงก็ได้ให้คำแนะนำให้สหกรณ์หาตลาดเพื่อระบายในช่องทางใหม่ไว้ด้วย แต่ก็ขอให้มีการประชาสัมพันธ์เกษตรกรให้ทราบข้อเท็จจริงเพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกจากข่าวลือ โดยรอฟังข้อเท็จจริงก่อน
