เชียงใหม่ - อดีตนายตำรวจนำ ตร.ทั้งใน-นอกราชการยื่นแถลงการณ์ค้านผู้ชุมนุมบุก สตช. ขณะที่องค์การ นศ.มช.เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการใช้ความรุนแรง ด้าน ม.พายัพออกแถลงการณ์หนุนปฏิรูปการเมืองไทย ให้ได้นักการเมืองที่ดี-ขจัดคอร์รัปชัน
ร.ต.ต.สังขะ ปาละกะวงศ์ ณ อยุธยา ข้าราชการบำนาญ ในนามของข้าราชการตำรวจทั้งที่อยู่ในราชการและนอกราชการ ได้เข้ายื่นแถลงการณ์แสดงจุดยืนต่อสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในสังคมไทยปัจจุบัน ต่อนายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ที่ด้านหน้าโรงแรมโลตัสปางสวนแก้ว จ.เชียงใหม่ วานนี้ (3 ธ.ค.)
โดยในแถลงการณ์ระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับมวลชนที่เข้าไปปิดล้อมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล เนื่องจาก สตช.เป็นหน่วยงานหลักในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชน
พร้อมทั้งได้ยื่นรายชื่อของข้าราชการตำรวจทั้งในราชการ และนอกราชการ ครอบครัว และประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่ ที่สนับสนุนการปฏิบัติภารกิจการควบคุมสถานการณ์การชุมนุมประท้วง โดยใช้กำลังกองร้อยควบคุมฝูงชนตามแนวทางของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ขณะที่ผู้แทนองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก็ได้ยื่นหนังสือแถลงการณ์องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ต่อรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เช่นกัน โดยแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อนักศึกษาและประชาชน จึงได้มีการประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ทางการเมือง
ซึ่งที่ประชุมได้มีข้อเสนอต่อผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง รวม 4 ประเด็น คือ 1. ขอให้ทุกฝ่ายยุติการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ อันจะก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน 2. ขอให้ทุกฝ่ายดำเนินกิจกรรมของตนภายใต้กรอบของกฎหมายและวิถีทางประชาธิปไตย 3. ขอให้ทุกฝ่ายมีการเจรจาเพื่อหาทางยุติความขัดแย้ง ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติในปัจจุบัน และ 4. ขอให้ประชาชนโปรดใช้วิจารณญาณในการติดตามรับฟังข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่เคารพการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างตามวิถีทางประชาธิปไตย และขอความร่วมมือให้นักศึกษา กลุ่มนักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แสดงออกหรือแสดงความคิดเห็นทางการเมืองในนามของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง โดยไม่อ้างนามมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในการแสดงออก หรือแสดงความคิดเห็นดังกล่าว
ขณะที่มหาวิทยาลัยพายัพก็ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้แนวทางสันติวิธี เพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการเมืองในสังคมไทยปัจจุบัน
โดยได้ประกาศจุดยืนและเรียกร้องไปยังขั้วขัดแย้งทุกฝ่ายว่า การชุมนุมเพื่อแสดงออกถึงจุดยืนทางการเมืองโดยสันติ ปราศจากอาวุธ เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานอันชอบธรรมของประชาชนไทยทุกคน โดยทุกฝ่ายต้องตระหนักว่าบุคคลอาจมีความคิดเห็นต่างกันได้ แต่ไม่ใช่ศัตรูของกันและกัน ทุกฝ่ายจะต้องคำนึงถึงและให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อความปลอดภัยในชีวิตมนุษย์ การชุมนุมจะต้องเป็นไปโดยสงบ ไม่สร้างการยั่วยุและทำร้ายซึ่งกันและกัน
ประชาคมมหาวิทยาลัยพายัพขอชื่นชมและสนับสนุนในจุดยืนทุกขั้วความขัดแย้งที่ต่างประกาศจุดยืนว่าจะยืนหยัดและยึดมั่นในการต่อสู้และแก้ไขความขัดแย้งทางการเมืองด้วยแนวทางสันติวิธี และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้แนวทางสันติวิธีในการแก้ไขความขัดแย้งผ่านกระบวนการเจรจากันโดยเร็วที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรงและความสูญเสียในชีวิตที่จะตามมา
ส่วนการจะก้าวข้ามความขัดแย้งอันอาจนำไปสู่ความรุนแรงในสังคมไทยได้อีกในอนาคต มหาวิทยาลัยพายัพเห็นว่ามีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนในการปฏิรูประบบการเมืองไทย อันเกิดจากการมีส่วนร่วมและเป็นที่ยอมรับของบุคคลและองค์กรทุกภาคส่วน เพื่อให้ได้ระบบการเมืองและนักการเมืองที่ดี ปราศจากการทุจริตคอร์รัปชันและคำนึงถึงประโยชน์ของสังคมโดยส่วนรวมอย่างแท้จริง โดยมีกลไกและระบบการตรวจสอบอย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ