แก๊ง ส.ส.ทาสแม้วโคราชขนฝูงแดงเชลียร์ รบ. “ปูเน่า”-มอบดอกไม้ผู้ว่าฯ ขี้ข้า

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - แก๊ง ส.ส.ทาสแม้วโคราชขนฝูงแดงเชลียร์รัฐบาล “ปูเน่า” มอบดอกกุหลาบให้ผู้ว่าฯ ขี้ข้า นช.ทักษิณและตำรวจ ที่หน้าศาลากลางจังหวัดฯ พร้อมยื่นหนังสือถึงรัฐบาลให้เดินหน้าบริหารประเทศต่อไป ประกาศปกป้องศาลากลางจังหวัดไม่ให้กลุ่มใดบุกรุกได้ และช่วยกันรื้อรั้วลวดหนามออก ก่อนทำการฉีกเผาแถลงการณ์ “เทพเทือก” 4 ข้อ แฉจ้างม็อบเชลียร์หัวละ 300

เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (3 ธ.ค.) ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เบื้องพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้มีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง จ.นครราชสีมา พร้อมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน นักการเมืองท้องถิ่น กลุ่มสตรี ในพื้นที่ 32 อำเภอของ จ.นครราชสีมารวมกว่า 1,000 คน นำโดย นายอนุวัฒน์ ทินราช รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา ในฐานะประธาน นปช.ภาคอีสาน และประธาน นปช.นครราชสีมา 32 อำเภอ, นายสมโภชน์ ประสาทไทย อดีตผู้สมัคร ส.ส. แกนนำ นปช.อำเภอเมืองนครราชสีมา นายเขื่อนเพชร โพนรัมย์ แกนนำ นปช. อ.สีคิ้ว และนายเชิดพงษ์ นามวงศ์ นายกสมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จ.นครราชสีมา เดินทางมาชุมนุมสนับสนุนรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้บริหารประเทศต่อไป

โดยมวลชนส่วนใหญ่เป็นการเกณฑ์คนเสื้อแดงเดินทางด้วยรถบัสมาจาก อ.สีคิ้ว, อ.ปากช่อง, อ.พิมาย ประมาณ 10 คัน และมี ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) จ.นครราชสีมา ประกอบด้วย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม, นายสุชาติ ภิญโญ, นายโกศล ปัทมะ, นายสัมภาษณ์ อัตถาวงศ์, นายจรูญพงศ์ พันธ์ศรีนคร เป็นต้น เดินทางมาร่วมชุมนุมด้วย

พร้อมกันนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงได้ชูป้ายข้อความให้กำลังใจรัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เช่น สนับสนุนนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกต่อไป, สันติ ปรองดอง, อย่าให้ความแตกต่างมาสร้างความแตกแยก, ชาวโคราชขอเป็นกำลังใจให้ผู้ว่าฯ และข้าราชการทุกคน, หันหน้าเข้าหากันยึดมั่นประชาธิปไตย เราคนไทยเหมือนกัน และต้านอำนาจนอกระบบ หยุดยึดสถานที่ราชการ เป็นต้น

จากนั้นเวลา 10.30 น. นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา ได้เดินทางมาพบกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ตั้งแถวรอรับอยู่พร้อมรับมอบดอกกุหลาบสีแดงจากกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะนั้นแกนนำได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่า กลุ่มคนเสื้อแดงต้องการเดินทางมามอบดอกไม้เพื่อให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ และพร้อมที่จะรื้อลวดหนามออกจากศาลากลางจังหวัดและจะช่วยกันรักษาปกป้องศาลากลางจังหวัดฯ ร่วมกับตำรวจ อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) โดยไม่ยอมให้กลุ่มมวลชนคนโคราชต้านคนโกง หรือคนกลุ่มใดบุกเข้ามายึดศาลากลางจังหวัด และสถานที่ราชการได้อย่างเด็ดขาด

นายอนุวัฒน์ ทินราช แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ได้เป็นตัวแทนยื่นหนังสือเปิดผนึกถึงรัฐบาล ผ่าน นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าฯ นครราชสีมา เพื่อสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมเสนอแนวทางการปฏิบัติต่อนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย 1. ชาว จ.นครราชสีมาขอสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

2. ชาว จ.นครราชสีมาเห็นด้วยกับแนวทางของนายกรัฐมนตรีที่ควรหันหน้าเข้าพูดจาหารือกัน เพื่อหาทางออกให้แก่ประเทศไทย

3. ชาว จ.นครราชสีมาขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอย่าสร้างกระแสเกลียดชังเพื่อนำไปสู่ความขัดแย้งอย่างรุนแรง เพื่อหวังให้มีการเปลี่ยนแปลงตามความต้องการของกลุ่มตน โปรดอย่าเหยียบซากศพของประชาชนไปสู่ความต้องการ ความสำเร็จของตัวเอง

4. ขอให้รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ดำเนินการปกครองตามกฎกติกาของบ้านเมืองอย่างเคร่งครัด เพื่อความสงบร่มเย็น และความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมืองต่อไป

และ 5. ขอให้นายกรัฐมนตรีได้มีกำลังกาย กำลังใจที่เข้มแข็ง เพื่อทำงานให้กับประเทศชาติได้รับความสำเร็จลุล่วงตามที่ปรารถนา ลงชื่อประชาชนชาว จ.นครราชสีมา

ต่อจากนั้นได้ร่วมกันร้องเพลงสดุดีมหาราชา และเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนร่วมกันฉีกและเผาแถลงการณ์ 4 ข้อของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. เพื่อแสดงให้เห็นว่ากลุ่มคนเสื้อแดงไม่เห็นด้วยกับแถลงการณ์ดังกล่าว จากนั้นได้ช่วยกันรื้อรั้วลวดหนามที่เจ้าหน้าที่วางล้อมรอบบริเวณศาลากลางจังหวัดนครราชสีมาเอาไว้ และแยกย้ายกันเดินทางกลับภูมิลำเนา ทางด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวระบุว่า ชาวบ้านที่ถูกเกณฑ์มาชุมนุมในวันนี้ได้รับค่าจ้างจากนักการเมืองหัวละ 300 บาท

ขณะที่ข้าราชการในศาลากลางจังหวัดนครราชสีมายังคงมาทำงานตามปกติ แต่เจ้าหน้าที่ได้เปิดให้เข้า-ออกศาลากลางจังหวัดเฉพาะประตูด้านหน้าเพียงจุดเดียว และไม่อนุญาตให้นำรถยนต์เข้าไปจอดภายในศาลากลางจังหวัด และยังคงมีการตรึงกำลังตำรวจ อส. พร้อมอุปกรณ์ควบคุมฝูงชน รถดับเพลิง เตรียมพร้อมรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลในระดับขั้นสูงสุดอย่างต่อเนื่อง