สสจ.เร่งเยียวยาญาติผู้ป่วย-หลังญาติโวยหมอสั่งพยาบาลฉีดยาแม่ตาย

ลำปาง - สาธารณสุขจังหวัดฯเร่งเยียวยาครอบครัวผู้ป่วยที่เสียชีวิต กรณีหมอสั่งพยาบาลฉีดยาคนไข้ 4 เข็มจนสิ้นใจ ขณะที่ นอภ.ดึงทุกฝ่ายร่วมหาทางออกซ้ำอีกครั้ง ย้ำไม่มีการกดดันญาติและไม่ปิดกั้นหากจะฟ้องร้อง

นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ แพทย์เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง เปิดเผยความคืบหน้ากรณี น.ส.มัณฑริกา สุขสวัสดิ์ บุตรสาวของนางวิรุณ สุขสวัสดิ์ อายุ 49 ปี ชาวต.บ้านขอ อ.เมืองปาน จ.ลำปาง ที่เสียชีวิตหลัง เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเมืองปาน เมื่อคืนวันที่ 21 พ.ย.56 ว่า หลังญาติได้ร้องขอความเป็นธรรม และได้มีการเจรจากันระหว่างนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ,เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดลำปาง ,เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และญาติของผู้เสียชีวิตเมื่อ 24 พ.ย.56 แล้ว

ซึ่งทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง ได้แสดงความเสียใจ และความรับผิดชอบใน เบื้องต้นโดยการเห็นชอบให้ชดใช้เยียวยากับครอบครัวผู้เสียหายเป็นการเร่งด่วน ตามพระราชบัญญัติประกันสุขภาพแห่งชาติ มาตรา 41 ในชั้นสูงสุด ในการเยียวยา เป็นเงิน 400,000 บาท พร้อมกับการดูแลเรื่องทุนการศึกษาแก่บุตรของผู้เสียหายจนเรียนจบการศึกษา พร้อมทั้งไปร่วมงานศพและพร้อมดูแลช่วยเหลืองานฌาปนกิจศพ หากทางครอบครัวขาดเหลือ หรือต้องการความช่วยเหลือในด้านอื่นๆ

ด้านนายสืบพงษ์ นิ่มพูลสวัสดิ์ นายอำเภอเมืองปาน จ.ลำปาง กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ล่าสุดเมื่อวานนี้( 28 พ.ย.) ตนเองได้เชิญผู้เสียหาย พร้อมด้วย ผอ.รพ.เมืองปาน รวมถึงแพทย์และพยาบาลที่เกี่ยวข้อง เข้าหารือเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับผู้เสียหาย ซึ่งทั้งสองฝ่ายก็ตกลงกันด้วยดี
 
โดยเบื้องต้นคือการเยียวยาด้วยตัวเงินตาม พ.ร.บ.ประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่กฎหมายอนุญาต ให้จ่ายได้ในขั้นสูงสุดไม่เกิน 400,000 บาท นอกจากนั้นทาง รพ.เมืองปาน จะได้ตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือด้านการศึกษาให้กับบุตรของผู้เสียชีวิต โดยจะสนับสนุนเงินช่วยเหลือเดือนละ 3,000 บาท จนกว่าจะเรียนจบชั้นมัธยม 6

ส่วนด้านการฟ้องร้องที่ผู้เสียหายได้แจ้งความไว้ ก็ให้เดินหน้าต่อไปพร้อมกับการสอบสวน ของหน่วยงานสาธารณสุข ซึ่งตนเองยืนยันว่า ไม่ได้มีการกดดันหรือบีบบังคับให้ผู้เสียหายถอนแจ้งความ แต่เนื่องจากทั้งสองฝ่ายคือ ประชาชนที่ตนต้องดูแล และแพทย์ประจำโรงพยาบาลแห่งนี้ก็มีเพียง 4 ท่าน รวมทั้ง ผอ.รพ. ด้วย แต่ต้องมีหน้าที่ในการดูแลผู้ป่วยรวม 50 หมู่บ้าน ตนต้องการให้ทั้งสองฝ่ายหาทางออกร่วมกันให้ดีที่สุดไม่ได้เข้าข้างใคร

ส่วนข้อเสนอที่มีการเสนอต่อกันนั้นตนก็เห็นว่าเหมาะสม และเป็นธรรม แม้จะเทียบไม่ได้กับการสูญเสียชีวิตของคนคนหนึ่งก็ตาม แต่เมื่อเกิดความสูญเสียแล้ว ก็คงต้องมองถึงคนที่จะต้องดำรงชีวิตอยู่ต่อไปเป็นหลัก เพราะเขาก็ยังคงอยู่ในพื้นที่ต่อไปไม่ได้ย้ายไปไหน

“หมอก็ยังจะต้องดูแลผู้ป่วย เมื่อเกิดเรื่องไม่ใช่เฉพาะแพทย์และพยาบาล 2-3 คนเท่านั้นที่ขวัญเสีย แต่รวมถึงเจ้าหน้าที่ทั้งหมดของโรงพยาบาลด้วย ขณะที่ญาติผู้เสียชีวิต ก็ยังจะต้องอยู่ในพื้นที่ และก็ยังจะต้องเข้าโรงพยาบาล แล้วจะทำอย่างไรที่จะให้ทั้งสองฝ่ายอยู่ต่อไปอย่างปกติสุข นี้คือหน้าที่ของนายอำเภอ”