พิจิตร - ชาวพิจิตรเกือบ 3,000 คนร่วมใจพากันเดินขบวนไปยังศาลากลางจังหวัดพิจิตรเพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าไม่ต้องการรัฐบาลนี้ ด้านผู้ว่าฯลงมาพบปะผู้ชุมนุมพร้อมรับนกหวีดเป่าสร้างความพอใจให้กันผู้ชุมนุมหลังจากนั้นได้แสดงพลังต่อที่สรรพากรจังหวัด
วันนี้ (27พ.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่ผ่านมาได้มีกลุ่มพลังมวลชนจำนวนเกือบ 3 พันคน นำโดยนายอาวุธ เดชอุปการ ได้พากลุ่มผู้ไม่เห็นด้วยกับการบริหารงานรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่เป็นหุ่นเชิดของ พ.ต.ท.ทัษิณ ชินวัตร ที่เป็นพี่ชาย ได้รวมตัวกันไปที่ศาลากลางจังหวัดพิจิตร เพื่อเป่านกหวีดเป็นการแสดงพลังในเชิงสัญลักษณ์และเชิญชวนให้ข้าราชการออกมาร่วมกับภาคประชาชน
ซึ่งนายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้ออกมาพบกับมวลชน และกล่าวว่าตนเองชื่นชอบและเคารพในระบอบประชาธิปไตยรวมถึงเคารพกฎหมายอย่างเคร่งครัด
และกล่าวเพิ่มเติมว่า เคยมีนักประชาธิปไตยท่านหนึ่งเขียนหนังสือที่ท่านผู้ว่าฯพิจิตร ประทับใจ มีข้อความตอนหนึ่งว่า “เราจะขอต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย แม้จะต้องเสียชีวิตหรือเสียเลือดเนื้อก็จะทำเพื่อให้ประชาชนได้พูดและแสดงออก” จากคำพูดดังกล่าวเรียกเสียงปรบมือและเสียงนกหวีดของผู้ที่มาชุมนุมชื่นชมกับคำพูดของนายสุรชัย ผู้ว่าฯพิจิตร
จากนั้นแกนนำมวลชนได้ยื่นข้อเรียกร้องขอให้ผู้ว่าฯพิจิตร สั่งให้ข้าราชการในบังคับบัญชาหยุดงาน 2 วัน คือ ในวันพฤหัสบดี-ศุกร์ ที่ 28-29 พ.ย.2556 ซึ่งผู้ว่าฯพิจิตร บอกกับผู้ที่มาชุมนุมว่าพวกท่านก็เหมือนกับผมคือเคารพกฎหมาย ดังนั้นจึงขอเรียนด้วยความสัตย์จริงว่าผู้ว่าราชการจังหวัดไม่มีอำนาจสั่งให้ข้าราชการหยุดงานได้ แต่ผู้ว่าฯมีอำนาจอนุญาตให้ข้าราชการลาหยุด ลากิจ ลาพักร้อน หรือแม้แต่จะลาไปแสดงความคิดเห็นส่วนตัวทางด้านการเมืองเราก็ไม่ขัดข้องและไม่ได้มองว่าเป็นศัตรูหรือฝ่ายตรงข้ามกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
ซึ่งคำตอบดังกล่าวสร้างความพอใจให้กับกลุ่มผู้มาร่วมชุมนุมและมีเป็นจำนวนมากนำดอกกุหลาบมามอบให้เป็นกำลังใจให้อยู่เคียงข้างประชาชน จากนั้นก็มีกลุ่มผู้ชุมนุมยื่นนกหวีดขอให้ผู้ว่าฯพิจิตร ร่วมเป่านกหวีด ซึ่งนายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เมื่อรับนกหวีดจากกลุ่มผู้ชุมนุมมาแล้วก็กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าถ้าผมเป่านกหวีดแล้วทำให้ทุกท่านที่มาชุมนุมมีความสุขและสบายใจผมก็ยินดีจะร่วมเป่านกหวีดกับท่าน
จากนั้น นายสุรชัย ก็เป่านกหวีดท่ามกลางกลุ่มผู้ชุมนุมที่ไชโยโห่ร้องและเป่านกหวีดขานรับเสียงดังสนั่นกึกก้องไปทั่วศาลากลางพิจิตรเป็นระยะเวลายาวนานเกือบ 5 นาที จนเป็นที่พอใจของผู้ที่มาร่วมชุมนุม
จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนก็แยกย้ายกลับ ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 500 คน ก็ได้เคลื่อนขบวนต่อไปที่สำนักงานสรรพกรพื้นที่พิจิตร ถ.บึงสีไฟ อ.เมืองพิจิตร ซึ่งมีนายมณฑล รอยตระกูล สรรพกรพื้นที่จังหวัดพิจิตร ลงมาพบกับกลุ่มผู้ชุมนุม มีการพูดคุยแบบเป็นกันเอง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที สร้างความพอใจให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมที่เป่านกหวีดและใช้มือตบพร้อมทั้งไชโยโห่ร้องว่าปฏิบัติการในเชิงสัญลักษณ์ในการแสดงพลังขับไล่รัฐบาลระบอบทักษิณได้สำเร็จลุล่วงภารกิจ
จากนั้นได้เคลื่อนขบวนแห่ไปรอบๆตลาดเมืองพิจิตรจนถึงเวลา17.00 น. จึงได้แยกย้ายและสลายตัวไปพร้อมกับประกาศว่าจะรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่นพร้อมที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพตลอดเวลาหากรัฐบาลใช้ความรุนแรงกับพี่น้องประชาชนที่ชุมนุมอยู่ที่ราชดำเนินและทุกจุดที่ประชาชนดาวกระจายอยู่ดังกล่าวอีกด้วย