คาดหัวกระสุนที่พบในตัวช้างที่ป่าเต็งถูกยิงมานานแล้ว

เพชรบุรี - คาดหัวกระสุนขนาด 11 มม. และลูกปลาย 16 หัว ที่พบในตัวช้างตายในป่าเต็ง คาดช้างถูกยิงมานานแล้ว เพราะจากการตรวจสอบบริเวณตัวช้างไม่มีบาดแผล

เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (27 พ.ย.) ที่สุสานช้างหุบเขาเต่าในพื้นที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ กจ7 ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบ พ.ต.ท.หญิง เอกจิตตรา มีไชยธร นักวิทยาศาสตร์(สบ 3) หัวหน้าพิสูจน์หลักฐาน จ.เพชรบุรี นำกำลังเข้าตรวจสอบซากลูกช้างเพศผู้วัย 6-7 ปี ที่ตายบริเวณหมู่ 3 บ้านป่าแดง ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน และถูกนำมาเตรียมกลบฝัง ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ใช้เครื่องตรวจโลหะ ตรวจที่ตับ และที่ซากช้างเพื่อหาวัตถุต้องสงสัยอย่างละเอียดอีกครั้งแต่ไม่พบวัตถุพยานเพิ่มเติม

โดยก่อนหน้านี้ช่วงเช้าวันเดียวกัน นายสัตวแพทย์หญิงเนตรนภา วิทิตธรรมกุล สัตวแพทย์ประจำสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี นายสัตวแพทย์บุรฉัตร ตันประดิษฐ์ นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วย นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้เดินทางเข้าทำการผ่าพิสูจน์ซากช้าง ซึ่งผลปรากฏว่า พบหัวกระสุนปืนขนาด 11 มม. 1 หัว อยู่ในผนังตับของช้าง และพบลูกปืนลูกซองเบอร์ 12 (ลูกปลาย) จำนวน 16 เม็ด ที่บริเวณสะโพกขาหลังขวาจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่า เบื้องต้นมีหลายสาเหตุเพราะว่ากระสุนที่ยิงเข้าที่ขาหลังฉับพลันคงไม่อาจทำให้ตายได้ แต่หัวกระสุนขนาด .45 อยู่ในทรวงอกในสภาพสมบูรณ์เพราะบาดแผลที่เข้าไปนั้นหาไม่เจอเลยตามผิวหนังของช้าง แสดงว่าน่าจะถูกยิงมาก่อนนานแล้ว และเป็นหัวกระสุนใหม่ ซึ่งน่าจะมีผลกระทบในเรื่องของภายในอักเสบหรือเปล่าก็ต้องรอผลจากการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจพิสูจน์

ด้านนายสัตวแพทย์หญิงเนตรนภา วิทิตธรรมกุล สัตวแพทย์ประจำสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เปิดเผยว่า จุดที่เจอมีหัวกระสุนอยู่ 2 ตำแหน่ง โดยลูกปลายจะอยู่บริเวณสะโพกขาหลังขวา ซึ่งกระสุนไม่ลึกมาก ส่วนอีก 1 ลูก เป็นหัวกระสุนปืนขนาด 11 มม. โดยอยู่ที่ผนังของตับ ซึ่งคิดว่าเป็นการอักเสบแต่ไม่ได้เพิ่งเป็น เพราะกระสุนที่เจอไม่มีร่องรอยบนผิวหนังของช้างเลยซึ่งคิดว่าช้างน่าจะปรับตัวเองได้แล้ว

ทั้งนี้ จากที่ดูคร่าวๆ ของวิถีกระสุนที่เจาะเข้าไปในตัวช้างไม่ได้เข้าไปลึก และไม่ได้เข้าไปที่เนื้อตับเลย ซึ่งไม่ได้ทำให้เลือดออกจนเสียชีวิต เพราะเปิดในช่องท้องไม่มีปริมาณเลือดที่ผิดปกติ ทั้งนี้ ยังไม่ทิ้งประเด็นอื่นๆ ที่ครั้งแรกบอกว่ามีรังผึ้งอยู่บริเวณใกล้ๆ ที่ช้างตาย ซึ่งก็ได้เก็บเนื้อและหนังบริเวณข้างๆ ใบหูที่พบว่ามีแผลเยอะซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากการถูกผึ้งรุมต่อยหรือเปล่าไปส่งตรวจด้วย ส่วนประเด็นที่บอกว่า แต่โดนสารเคมีหรือเปล่านั้นก็ได้เก็บคอนเทนต์ในกระเพาะและตับไปดูในเรื่องของสารเคมีด้วย ซึ่งคาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์จะทราบผล