จันทบุรี - สัตวแพทย์กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ลงพื้นที่เก็บข้อมูลช้างป่าจากชาวบ้าน และร่องรอยเท้าช้างป่าเพื่อพิสูจน์ทราบว่าเป็นช้างป่าตัวใดที่เกเรก่อนนำออกนอกพื้นที่ตามที่จังหวัดจันทบุรีมีนโยบายเร่งด่วน
วันนี้ (19 ก.ย.) สัตวแพทย์หญิงสุภกานต์ แก้วโชติ สัตวแพทย์หญิงประจำสำนักบริหารพื้นที่ที่ 2 ศรีราชา พร้อมสัตวแพทย์หญิงจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช สัตวแพทย์หญิงจากสำนักบริหารพื้นที่ที่ 4 สุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่เขตพันธุ์รักษาสัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนได้ลงพื้นที่หมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 8 ต.เขาแก้ว อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ที่เป็นจุดที่มีช้างป่าอาศัย และหากินอยู่ในพื้นที่ และเป็นจุดเกิดเหตุที่ช้างป่าทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิตเป็นรายที่ 5 เพื่อลงเก็บข้อมูลจากชาวบ้าน และเก็บร่องรอยเท้าช้างป่าเพื่อนำไปพิสูจน์ทราบว่าเป็นช้างป่าเกเรที่ทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิตหรือไม่อย่างไร
หลังจากทางจังหวัดจันทบุรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดติดตามช้างป่าทุกอำเภอเฝ้าติดตามช้างป่าเกเร 3 ตัวที่ทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิต และบาดเจ็บอย่างใกล้ชิดมาตลอด 2-3 สัปดาห์เพื่อนำออกนอกพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ไปอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมต่อไป
ล่าสุด วันนี้มีความชัดเจนมากขึ้นหลังจากทีมงานสัตวแพทย์ได้ลงพื้นที่มาเก็บข้อมูล และสอนเจ้าหน้าที่ชุดติดตามช้างป่าให้รู้จักการเก็บมูลช้าง ร่องรอยเท้าช้าง ช่องทางที่ช้างป่าพักอาศัยหากินเพื่อเป็นแนวทางในการติดตามช้างป่าเกเรทั้ง 3 ตัวว่าเป็นช้างป่าตัวที่ทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิตและบาดเจ็บจริงหรือไมอย่างไร ก่อนที่จะทำเป็นตามขั้นตอนในการเคลื่อนย้ายช้างป่าเกเรออกนอกพื้นที่
ในเบื้องต้น ชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้านเริ่มอุ่นใจมากขึ้นเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่มาปฏิบัติหน้าที่เพื่อที่จะนำช้างป่าเกเรออกนอกพื้นที่ เพราะจะทำให้ชาวบ้านสามารถที่จะออกมาใช้ชีวิตประจำวันหรือออกมากรีดยางทำสวนได้เหมือนเดิมไม่ต้องกลัวว่าช้างป่าจะมาทำร้ายชาวบ้านอีก
หลังภารกิจในพื้นที่ตำบลเขาแก้วเสร็จสิ้น ทีมงานสัตวแพทย์ได้เดินทางต่อไปยังหน่วยเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองเครือหวาย อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ต่อไป
ในเรื่องนี้ชาวบ้านหมู่ที่ 8 กล่าวว่า ช้างป่าลงมาหากินในพื้นที่แทบทุกคืนชาวบ้านมีความหวาดกลัว แต่หลังจากมีเจ้าหน้าที่เข้ามาอยู่ร่วมกับชาวบ้านในการช่วยขับไล่ช้างป่าให้กลับขึ้นเขาไปก็อุ่นใจมากขึ้น และกล้าที่จะออกมาใช้ชีวิตประจำวันได้ แต่ก็ยังคงมีความกังวลอยู่เพราะช้างป่าเกเรยังไม่ถูกจับออกนอกพื้นที่ไป แต่ทั้งนี้ชาวบ้านก็เริ่มเห็นความชัดเจนมากขึ้นที่ทีมสัตวแพทย์ลงมาในพื้นที่ที่จะนำช้างป่าเกเรออกนอกพื้นที่ไป