เพชรบุรี - เจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายช้างป่าวัย 7 ปี ไปยังสุสานช้างหุบเต่า ก่อนทำการผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตาย เบื้องต้นพบหัวกระสุนปืนขนาด 11 มม. 1 หัว อยู่ในถุงกระเพาะอาหารช้าง และพบลูกปืนลูกซอง (ลูกปลาย) อีก 16 เม็ด ที่ต้นขาหลังด้านขวา
จากกรณีพบซากช้างพลายอายุประมาณ 7 ปี นอนตายอยู่ในป่าโปร่งริมถนนสายป่าเด็ง-ห้วยโสก อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ห่างจากริมถนนเข้าไปประมาณ 50 เมตร เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา เบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย แต่เจ้าหน้าที่ได้ตั้งสาเหตุการตายไว้ 3 ประเด็นคือ 1.คาดว่าน่าจะเกิดจากพยาธิ เนื่องจากพบเห็นมูลของช้างแล้วพบพยาธิในกองมูลที่ช้างถ่ายออกมาอยู่ใกล้ๆ 2.คาดว่าน่าจะเกิดจากการสะสมของสารเคมีที่ชาวบ้านใช้ แต่ก็คงไม่ใช่เนื่องจากช่วงระยะนี้ชาวบ้านจะไม่มีการทำไร่ จึงไม่น่าจะเกิดจากสารเคมีที่อยู่ในพืชสวนของชาวบ้านที่ช้างได้กินเข้าไป และ 3.คาดว่าช้างน่าจะโดนผึ้งหลวงรุมต่อยจนช้างล้มตาย เนื่องจากจุดที่ใกล้ช้างตายติดกับถนนใหญ่ มีรังผึ้งหลวงขนาดใหญ่มาก 1 รัง เกาะทำรังอยู่บนต้นกระถิน ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นไปได้ที่ช้างซึ่งเดินหากินในพื้นที่ดังกล่าวแล้วเดินไปชนรังผึ้งจนผึ้งแตกรังรุมต่อยจนช้างล้มตาย แต่เบื้องต้น ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ต้องรอผลผ่าพิสูจน์ซากเพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอแพทย์
ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานใช้รถแบ็กโฮเคลื่อนย้ายช้างป่าขึ้นรถบรรทุก 6 ล้อ ไปยังสุสานช้างที่หุบเต่า ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนที่นายสัตวแพทย์บุรฉัตร ตันประดิษฐ์ นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมคณะ 6 คน และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 144 เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจ ทัพพระยาเสือ จะลงมือผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายของช้างป่าตัวนี้
จนเมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (27 พ.ย.) ผลการผ่าในเบื้องต้นพบหัวกระสุนปืนขนาด 11 มม. 1 หัวอยู่ในถุงกระเพาะอาหารช้าง และพบลูกปืนลูกซอง (ลูกปลาย) อีก 16 เม็ด ที่ต้นขาหลังด้านขวา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุการตายต่อไป
จากกรณีพบซากช้างพลายอายุประมาณ 7 ปี นอนตายอยู่ในป่าโปร่งริมถนนสายป่าเด็ง-ห้วยโสก อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ห่างจากริมถนนเข้าไปประมาณ 50 เมตร เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา เบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย แต่เจ้าหน้าที่ได้ตั้งสาเหตุการตายไว้ 3 ประเด็นคือ 1.คาดว่าน่าจะเกิดจากพยาธิ เนื่องจากพบเห็นมูลของช้างแล้วพบพยาธิในกองมูลที่ช้างถ่ายออกมาอยู่ใกล้ๆ 2.คาดว่าน่าจะเกิดจากการสะสมของสารเคมีที่ชาวบ้านใช้ แต่ก็คงไม่ใช่เนื่องจากช่วงระยะนี้ชาวบ้านจะไม่มีการทำไร่ จึงไม่น่าจะเกิดจากสารเคมีที่อยู่ในพืชสวนของชาวบ้านที่ช้างได้กินเข้าไป และ 3.คาดว่าช้างน่าจะโดนผึ้งหลวงรุมต่อยจนช้างล้มตาย เนื่องจากจุดที่ใกล้ช้างตายติดกับถนนใหญ่ มีรังผึ้งหลวงขนาดใหญ่มาก 1 รัง เกาะทำรังอยู่บนต้นกระถิน ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นไปได้ที่ช้างซึ่งเดินหากินในพื้นที่ดังกล่าวแล้วเดินไปชนรังผึ้งจนผึ้งแตกรังรุมต่อยจนช้างล้มตาย แต่เบื้องต้น ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ต้องรอผลผ่าพิสูจน์ซากเพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอแพทย์
ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานใช้รถแบ็กโฮเคลื่อนย้ายช้างป่าขึ้นรถบรรทุก 6 ล้อ ไปยังสุสานช้างที่หุบเต่า ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนที่นายสัตวแพทย์บุรฉัตร ตันประดิษฐ์ นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมคณะ 6 คน และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 144 เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจ ทัพพระยาเสือ จะลงมือผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายของช้างป่าตัวนี้
จนเมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (27 พ.ย.) ผลการผ่าในเบื้องต้นพบหัวกระสุนปืนขนาด 11 มม. 1 หัวอยู่ในถุงกระเพาะอาหารช้าง และพบลูกปืนลูกซอง (ลูกปลาย) อีก 16 เม็ด ที่ต้นขาหลังด้านขวา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุการตายต่อไป