ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้การฯ โคราช ระบุคดีแก๊งรัสเซียปลอมบัตรเครดิตตระเวนกดเงินคืบหน้า ส่ง ตร.กระจายกำลังลงพื้นที่เพื่อสาวถึงเพื่อนร่วมขบวนที่เหลือ พร้อมประสานธนาคาร 50 ประเทศทั่วโลกเจ้าของบัตรตรวจสอบเงินและจำนวนลูกค้าที่ถูกขโมยข้อมูล ชี้เจ้าของบัตรและธนาคารที่ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่ยังไม่รู้ตัว ล่าสุดนำผู้ต้องหาทั้ง 3 คนฝากขังศาล จ.นครราชสีมา
วันนี้ (19 พ.ย.) พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีแก๊งชาวรัสเซียร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวของไทยใช้บัตรเครดิตปลอมดูดข้อมูลเจ้าของบัตรและตระเวนกดเงินตามตู้เอทีเอ็มจนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมาจับกุมได้ว่า ล่าสุดวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายวาซีลี หรืออเล็กซี อาวานอฟ อายุ 27 ปี ชาวรัสเซีย และนายเซอกี ปีเตอร์นอฟ อายุ 38 ปี อดีตเจ้าหนาที่ตำรวจที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย และ ด.ต.นนทพันธ์ แสงสุข อายุ 37 ปี ผู้บังคับหมู่งานสืบสวนกองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครราชสีมา เพื่อรอการสอบสวนเพิ่มเติมของเจ้าหน้าที่
พล.ต.ต.พงษ์เดชกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้พยายามสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 คนตลอดทั้งคืน มีความคืบหน้าไปพอสมควร ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันลงพื้นที่หาข่าวเพิ่มเติมเพื่อสาวให้ถึงเพื่อนร่วมขบวนการที่อาจเหลืออยู่ ส่วนทรัพย์สินที่ยึดได้จากการตรวจค้นอพาร์ตเมนต์ที่กรุงเทพฯ นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนของตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาได้ประสานขอรับมาจากตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นเงิน 1.6 ล้านบาท และบัตรเครดิตที่ใส่รหัสอีก 31 ใบ ส่วนการสอบปากคำภรรยาของชาวรัสเซียทั้ง 2 คนยังไม่พบหลักฐานชัดเจนว่ารู้เห็นและร่วมในขบวนการเดียวกัน เบื้องต้นจึงปล่อยตัวไป ซึ่งทาง สตม.จะจัดการต่อไป
ส่วนจำนวนผู้เสียหายที่ถูกแก๊งนี้ขโมยข้อมูลเพื่อมากดเงิน รวมถึงธนาคารเจ้าของบัตรที่ถูกกดเงินไปนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล และประสานข้อมูลกับธนาคารต่างๆ ใน 50 ประเทศทั่วโลก เพราะผู้ที่ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ส่วนประเทศไทยมีเพียงธนาคารเดียว คือ ธนาคารธนชาต มีลูกค้าคนไทยถูกขโมยข้อมูลไปกดเงินจำนวน 3 ราย อยู่ในพื้นที่ จ.กระบี่ เรื่องนี้คงต้องใช้เวลาตรวจสอบพอสมควรเนื่องจาก ผู้เสียหายส่วนใหญ่ยังไม่รู้ตัว เช่นเดียวกับธนาคารเจ้าของบัตรที่ถูกกดเงินออกไปก็ยังไม่รู้เช่นกันว่าถูกแก๊งชาวรัสเซียกดเงินของธนาคารออกไป
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นยังไม่มีข้อมูลที่เชื่อมโยงว่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับกรณีที่มีผู้เสียหายจำนวนมากที่กรุงเทพฯ เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกกลุ่มคนร้ายกดเงินออกไปจากบัญชี