xs
xsm
sm
md
lg

ขอนแก่นยกระดับงานไหมฯ สู่สากลปีแรก ผนึก 6 ชาติน้ำโขงร่วมจัด/จับคู่ธุรกิจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เวทีแถลงข่าวการจัดงานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยขอนแก่น
ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ผู้ว่าฯ ขอนแก่นร่วมกงสุลใหญ่จีน-เวียดนามแถลงข่าวยกระดับจัดงานเทศกาลไหมฯ สู่ระดับสากลปีแรก เผยภายในงานร่วมกับ 6 ชาติลุ่มน้ำโขง กัมพูชา จีน ลาว พม่า ไทย และเวียดนาม จัดสัมมนาวิชาการจับคู่เจรจาธุรกิจในประเด็นเส้นทางไหมลุ่มน้ำโขง แลกเปลี่ยนธุรกิจผ้าไหม แสดงผ้าไหมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ทั้งจัดแสดงและจำหน่ายไหมทั้งจากไทย-จีน-เวียดนาม

วันนี้ (15 พ.ย.) ณ เวทีแสดงใหญ่ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยขอนแก่น นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น, นายเซียะ ฝู เกิน กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน ประจำจังหวัดขอนแก่น, นายเหวียน ฮิว ดิ๊น กงสุลใหญ่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ประจำจังหวัดขอนแก่น, นางนิภา สุวรรณสุจริต นายกเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น, นายธาดา พรหมสาขา ณ สกลนคร รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ร่วมเปิดแถลงข่าวการจัดงานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 5256 นี้

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยถึงการจัดงานในปีนี้ว่า ถือเป็นปีแรกที่จังหวัดขอนแก่นได้ยกระดับงานไหมจากงานระดับท้องถิ่นสู่งานระดับสากล เพื่อเผยแพร่ชื่อเสียงความสวยงามของผ้าไหมไทยและผ้าไหมขอนแก่นสู่สากล และรับกับการเปิดประชาคมอาเซียน โดยร่วมกับ 6 ชาติลุ่มน้ำโขง ประกอบด้วย กัมพูชา จีน ลาว พม่า ไทย และเวียดนาม จัดสัมมนาวิชาการจับคู่เจรจาธุรกิจในประเด็นเส้นทางไหมลุ่มน้ำโขง การแลกเปลี่ยนธุรกิจผ้าไหม การแสดงผ้าไหมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ จากกรมหม่อนไหม

รวมถึงการแสดงชุดผ้าไหมพระราชทาน การแสดงผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากไหม การแสดงแบบแฟชั่นผ้าไหมของไทยและต่างชาติ การจำหน่ายผ้าไหมไทยทั่วทั้งประเทศกว่า 70 บูท การแสดงมหกรรมอาหารนานาชาติ และการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากจีน เวียดนาม ลาว และไทย ทั้งมีการแสดงนิทรรศการการศาสนาลุ่มน้ำโขง

นายเซียะ ฝู เกิน กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน ประจำจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ปีนี้จีนได้เข้าร่วมกิจกรรมหลายอย่าง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ผ้าไหมจากมณฑลกวางสี และได้รับการตอบรับจากสมาคมผ้าไหมจากเมืองหังโจว มณฑลเจ้อเจียง เข้าร่วมนำผลิตภัณฑ์ผ้าไหมมาร่วมแสดงและจำหน่าย ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักวิชาการ คณบดีด้านสิ่งทอ มหาวิทยาลัยเจ้อเจียงเข้าร่วมสัมมนาเส้นทางไหม มีนักธุรกิจตอบรับเพื่อสานต่อการค้ากับไทยและประเทศต่างๆ จำนวนมาก

นอกจากนี้ยังได้นำสินค้าจากจีนมาจำหน่ายเพื่อนำเงินเข้าสภากาชาดไทย และการแสดงศิลปะจากสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ซึ่งจะขึ้นแสดงที่เวทีกลาง 2 วัน คือวันที่ 30 พ.ย.และ 1 ธ.ค.

ขณะที่ นายเหวียน ฮิว ดิ๊น กงสุลใหญ่สาธารณรัฐสังคมเวียดนาม ประจำจังหวัดขอนแก่น ระบุว่า เป็นโอกาสดีที่ได้ร่วมกับเทศกาลไหมนานาชาติของจังหวัดขอนแก่น โดยมีนักวิชาการจากฮานอยเข้าร่วมสัมมนาวิชาการลุ่มน้ำโขง และได้รับการประสานจากกระทรวงพาณิชย์เวียดนามว่ามีการแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์จากไหมหลายร้านเข้าร่วมจำหน่าย และยังนำเอาช่างมาเปิดร้านตัดชุดอ๋าวหญ่าย เป็นการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมอีกด้านหนึ่งของเวียดนาม และเปิดโอกาสให้คนไทยได้สั่งตัดชุดอ๋าวหญ่ายได้ในงานอีกด้วย รวมทั้งจะมีการแสดงนาฏศิลป์ของเวียดนามบนเวทีกลางอีกด้วย

ด้านนายธาดา พรหมสาขา ณ สกลนคร รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ถึงแม้งานนี้จะยกระดับสู่สากล แต่ยังคงอนุรักษ์ประเพณีการผูกเสี่ยวให้คงอยู่คู่กับจังหวัดขอนแก่น โดยในปีนี้มีการจดทะเบียนคู่เสี่ยว การจัดพิธีผูกเสี่ยวในศาลาผูกเสี่ยวภายในบริเวณงานทุกคืน นอกจากนี้จะมีการประกวดพานบายศรี การประกวดหมอลำกลอน ประกวดวงดนตรีพื้นบ้านอีสาน ประกวดกลองยาว ประกวดสรภัญญ์ ประกวดสวดมนต์หมู่เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของภาคอีสานให้คงอยู่สืบไป

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น
นายเซียะ ฝู เกิน กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน ประจำจังหวัดขอนแก่น
นายเหวียน ฮิว ดิ๊น กงสุลใหญ่สาธารณรัฐสังคมเวียดนาม ประจำจังหวัดขอนแก่น
นายธาดา พรหมสาขา ณ สกลนคร รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น
กำลังโหลดความคิดเห็น