ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เสื้อแดงอิสระเชียงใหม่-ลำพูน รวมตัวค้านพ.ร.บ.นิรโทษสุดซอย ต้านม็อบล้มรัฐบาล แจงไม่เห็นด้วย พ.ร.บ.เหมาเข่ง แต่ต้องปกป้องรัฐบาล เพราะฝ่ายต้านหาเรื่องล้มทั้งที่ยอมถอยแล้ว เล็งยื่นหนังสือท้วง มช. ชี้หากอาจารย์อยากเคลื่อนไหวให้ลาออกมา อย่าใช้ชื่อมหาวิทยาลัยบังหน้า
กลุ่มคนเสื้อแดง ในนามแดงอิสระเชียงใหม่-ลำพูน นำโดยนายภูมิใจ ไชยา หรือดีเจต้อม และนายอภิชาติ อินสอน หรือดีเจอ้วน ชุมนุมกันที่ร้านแมคโดนัลด์ สาขาประตูท่าแพ วันนี้ (10 พ.ย.) โดยระบุว่า ต้องการแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ขณะเดียวกัน ก็ไม่เห็นด้วยกับการยกระดับการชุมนุมคัดค้านเป็นการขับไล่รัฐบาลด้วยเช่นกัน
กลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งมีประมาณ 30 คน นำแผ่นป้ายข้อความ เช่น “หยุดกฎหมายล้างผิด ส.ป.ก.4-01” “หยุดกฎหมายล้างผิด 309” “ถ้าตอนเขาทำรัฐประหารมึงคัดค้านกันมากขนาดนี้ วันนี้มึงไม่ต้องมาค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมหรอก” เป็นต้น มาแสดง และติดตามร่างกายเพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์
นายภูมิใจ กล่าวว่า การรวมตัวกันครั้งนี้ นื่องจากรณี พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ส่งผลให้เกิดความคิดเห็นที่หลากหลายในกลุ่มคนเสื้อแดง ทั้งที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คนเสื้อแดงทั้งหมดเห็นตรงกัน คือ ไม่ยอมรับการอภัยโทษให้cdj นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่มีส่วนในการสั่งฆ่าประชาชนในปี 2553
ซึ่งการมารวมตัวกันของกลุ่มแดงอิสระ ต้องการสื่อสารใน 2 ประเด็น คือ 1.แสดงความไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ.บัญญัตินิรโทษกรรม ที่จะทำให้คนสั่งฆ่าประชาชนพ้นผิด และ 2.ไม่เห็นด้วยกับการยกระดับการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ สู่การขับไล่ หรือล้มรัฐบาล เนื่องจากเห็นว่ารัฐบาลได้ประกาศจะถอนร่างออกจากสภาแล้ว แต่การที่กระบวนการยังไม่เสร็จสิ้นเป็นเพราะไม่ได้รับความร่วมมือจากส.ว.บางส่วน ที่ไมยอมเข้าร่วมประชุมวุฒิสภา จนทำให้ไม่สามารถถอนกฎหมายดังกล่าวออกได้
ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความพยายามที่จะช่วยสร้างเงื่อนไขให้ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล นำมาใช้เป็นข้ออ้างในการยกระดับการชุมนุม ดังนั้น กลุ่มคนเสื้อแดงจึงต้องออกมาให้กำลังใจรัฐบาล และส่งสัญญาณไปยังกลุ่มที่ต่อต้านว่า คนเสื้อแดงพร้อมจะปกป้องรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หากมีความพยายามที่จะล้มรัฐบาลลง
นายภูมิใจ กล่าวว่า กลุ่มแดงอิสระเชียงใหม่-ลำพูน เตรียมที่จะเข้ายื่นหนังสือต่อมหาวิทยาลัยชียงใหม่ วันที่ 12 พฤศจิกายนนี้ เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับการออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ในมหาวิทยาลัย เนื่องจากเห็นว่าเป็นความพยายามของอาจารย์บางกลุ่ม ที่อ้างชื่อมหาวิทยาลัยเพื่อการเคลื่อนไหวของตนเอง โดยทางกลุ่มเห็นว่า ควรทำในนามส่วนตัว หรือควรลาออกจากมหาวิทยาลัย แล้วค่อยออกมาเคลื่อนไหว หรือจะเข้าสังกัดกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดก็ได้ แต่ไม่ใช่การใช้มหาวิทยาลัยบังหน้า อีกทั้งยังเห็นว่า หากมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นสถาบันทางวิชาการมีการเลือกข้างเช่นนี้ จะทำให้การเรียนการสอนไม่เป็นไปตามหลักวิชาการ หากแต่เต็มไปด้วยอคติมากกว่า
