xs
xsm
sm
md
lg

เครือข่ายป้องแผ่นดินไทยบุรีรัมย์ขึ้นรถไฟเข้ากรุง สมทบม็อบบุกสถานทูตเขมร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทยอีสานใต้-ตะวันออก และประชาชนอาสาปกป้องแผ่นดินไทย จ.บุรีรัมย์ ขนสัมภาระขึ้นรถไฟเข้ากรุงไปสมทบกับเครือข่ายฯทั่วประเทศที่สวนลุมพินี ก่อนเคลื่อนบุกสถานทูตเขมร วันนี้ ( 6 พ.ย.)
บุรีรัมย์ - เครือข่ายปกป้องแผ่นดินไทยอีสานใต้-ตะวันออก และประชาชนอาสาปกป้องแผ่นดินไทย จ.บุรีรัมย์ ขนสัมภาระขึ้นรถไฟไปสมทบกับเครือข่ายฯ ทั่วประเทศที่สวนลุมพินีก่อนเคลื่อนบุกสถานทูตเขมร แสดงจุดยืนไม่ยอมรับคำตัดสินศาลโลก จวกรัฐบาลห่วงแต่ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ปล่อยประเทศสุ่มเสี่ยงเสียดินแดน

เมื่อเวลา 13.00 น. (6 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทยอีสานใต้-ตะวันออก และเครือข่ายประชาชนอาสาปกป้องแผ่นดินไทย จ.บุรีรัมย์ ได้เดินทางมารวมตัวกันที่บ้านพักของ นางสำเนียง สุภัณภพ กรรมการเครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทยอีสานใต้-ตะวันออก จ.บุรีรัมย์ ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ก่อนนำสัมภาระสิ่งของไปขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์

เพื่อเดินทางไปสมทบกับเครือข่ายปกป้องแผ่นดินไทยจากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศที่สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร เพื่อแสดงพลังปกป้องแผ่นดินไทย ทั้งพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร หรือกว่า 3,000 ไร่ รอบปราสาทพระวิหาร พื้นที่ตลอดแนวชายแดนทางบกยาว 798 กิโลเมตร รวม 1.8 ล้านไร่ และพื้นที่ทางทะเล 270,000 ตารางกิโลเมตร (17 ล้านไร่) ไม่ให้ตกเป็นของกัมพูชา

ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปชุมนุมที่หน้าสถานทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย เพื่อประกาศจุดยืนว่าประชาชนคนไทยไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลโลกที่มีกำหนดจะอ่านคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารในวันที่ 11 พ.ย.ที่จะถึงนี้

นางสำเนียง สุภัณภพ กรรมการเครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทยอีสานใต้-ตะวันออก จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า การเดินทางไปในครั้งนี้เพื่อประกาศจุดยืนว่าประชาชนคนไทยจะไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลโลก เพราะประเทศไทยได้ลาออกจากการเป็นภาคีสมาชิกของศาลโลกมานานแล้ว ดังนั้น ไม่ว่าคำตัดสินจะออกมาเป็นเช่นไรก็ไม่จำเป็นต้องยอมรับ แต่หากศาลโลกตัดสินให้พื้นที่พิพาทดังกล่าวตกเป็นของกัมพูชา ประชาชนที่ไม่มีที่อยู่อาศัยและที่ทำกินเป็นของตนเองก็จะเข้าไปจับจองปักหลักทำกินในพื้นที่ดังกล่าว โดยไม่ยอมให้กัมพูชาเข้ามายึดผืนแผ่นดินไทยโดยเด็ดขาด

“ที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชนในการออกมาปกป้องแผ่นดินไทย แต่กลับไปสนับสนุนผลักดันร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมจนก่อให้เกิดการประท้วงคัดค้านอยู่ในขณะนี้ และปล่อยให้ไทยต้องสุ่มเสี่ยงสูญเสียดินแดนจนถึงวันนี้ ทั้งที่ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมดังกล่าวไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนหรือประเทศชาติเลย แต่เชื่อว่ามีวาระซ่อนเร้นต้องการทำเพื่อหวังประโยชน์ช่วยเหลือพวกพ้องของตัวเองมากกว่า” นางสำเนียงกล่าว







กำลังโหลดความคิดเห็น