xs
xsm
sm
md
lg

ชาว“โนนสุวรรณ” บุรีรัมย์ โวยตั้งเป็นอำเภอกว่า 20 ปี ยังไม่มีป้ายบอกทางเข้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมาชิก อบต. พร้อมชาวบ้านอ.โนนสุวรรณ จ. บุรีรัมย์  สุดทนร่วมกันออกมาเรียกร้อง หลังก่อตั้งเป็นอำเภอมากว่า 20 ปี ยังไม่มีป้ายบอกทางเข้า จี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ วันนี้ ( 3 พ.ย.)
บุรีรัมย์ - สมาชิก อบต. พร้อมชาวบ้านอ.โนนสุวรรณ บุรีรัมย์ บ้านเกิด “สมจิตร” นักชกเหรียญทองโอลิมปิกสุดทนร่วมกันออกมาเรียกร้อง หลังก่อตั้งเป็นอำเภอมากว่า 20 ปี ยังไม่มีป้ายบอกทางเข้าทั้งที่เป็นแหล่งเพาะปลูกพืชผักผลไม้สร้างรายได้ปีละหลายร้อยล้าน วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งแก้ไข ขณะแขวงการทางแจงอยู่ระหว่างทำแผนเสนอของบฯ

วันนี้ ( 3 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ พร้อมตัวแทนชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านสุดทน ได้ร่วมกันออกมาร้องผ่านสื่อสะท้อนถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบ หลังจากได้ก่อตั้งเป็นกิ่งอำเภอโนนสุวรรณ มาตั้งแต่ปี 2534 และได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นอำเภอโนนสุวรรณ เมื่อปี 2538 รวมกว่า 20 ปี แต่กลับไม่มีป้ายแนะนำเส้นทางเข้าตัวอำเภอให้ผู้ที่สัญจรผ่านไปมามองเห็นได้ชัดเจน

มีเพียงหลักกิโลเมตรที่ตั้งอยู่บริเวณสามแยก และป้ายขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ลึกจากปากทางเข้าไปอีกเกือบ 200 เมตร ที่ระบุว่า อำเภอโนนสุวรรณ 11 กิโลเมตร ซึ่งหากใครไม่สังเกตหรือไม่ใช่คนในพื้นที่ก็จะไม่ทราบว่าเป็นทางเข้าตัวอำเภอโนนสุวรรณ

ทั้งนี้ อ.โนนสุวรรณ ตั้งอยู่ระหว่างกลาง อ.นางรองกับ อ.หนองกี่ โดยหากขับรถผ่านไปตามถนนทางหลวงหมายเลข 24 สายโชคชัย-เดชอุดม ถึงสามแยกบ้านหัวถนน ต.หัวถนน อ.นางรอง จะมีทางแยกเข้าไปผ่านถนนทางหลวงชนบท บร.2016 อีก 11 กิโลเมตร จึงจะถึงตัว อ.โนนสุวรรณ

จากกรณีดังกล่าวชาวบ้านจึงเกิดความน้อยใจและเกิดคำถามว่าทำไมจึงไม่มีการทำป้ายบอกทางเข้าตัวอำเภอเหมือนกับอำเภออื่นๆ ทั้งที่อำเภอโนนสุวรรณเป็นแหล่งเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ ผัก และผลไม้ที่ขึ้นชื่อ อาทิ ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพด เงาะ ทุเรียน ฝรั่ง กระท้อน และอื่นๆอีกหลายชนิด ซึ่งเป็นแหล่งใหญ่ของจังหวัดบุรีรัมย์ ส่งขายทั้งในและต่างจังหวัด สร้างรายได้เข้าอำเภอและจังหวัดปีละหลายร้อยล้านบาท และมีการจัดงานประเพณีเป็นประจำทุกปี

อีกทั้งยังเป็นบ้านเกิดของ “สมจิตร จงจอหอ” นักชกเหรียญทองโอลิมปิก ชื่อดังสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ แต่กลับถูกเมินไม่ใส่ใจ ชาวบ้านจึงได้ร่วมกันออกมาร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาสำรวจ และทำป้ายแขวนสูงขนาดใหญ่ให้ผู้สัญจรไปมาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

พร้อมกันนี้ยังร้องขอให้มีการติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างบริเวณทางเข้าและศาลที่พักผู้โดยสารด้วย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการก่ออาชญากรรม เพราะเวลากลางคืนจะมีชาวบ้าน นักเรียน นักศึกษา มานั่งรอขึ้นรถหรือรอญาติมารับอยู่เป็นประจำ

นางอุทัย แดงปัดถา สมาชิก อบต.โนนสุวรรณ กล่าวด้วยความน้อยใจว่า ที่ผ่านมาเวลาญาติเดินทางจากต่างจังหวัดมาเยี่ยม หรือพ่อค้าที่จะมารับซื้อพืชผัก ผลไม้ รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวอ.โนนสุวรรณ ก็ไม่ทราบว่าอำเภอตั้งอยู่ตรงไหนของจังหวัด บางคนหลงทางเพราะไม่มีป้ายบอกที่มองเห็นชัดเจน จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ทำป้ายแขวนสูงขนาดใหญ่แนะนำทางเข้าตัวอำเภอ เพื่อให้ผู้สัญจรผ่านไปมาได้เห็นอย่างชัดเจนด้วย

ด้านนายสวาท จำปาสา ตัวแทนชาวบ้าน บอกว่า ที่ผ่านมาเคยทำหนังสือร้องไปยังจังหวัด และแขวงการทางแล้ว แต่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ทำให้ผู้ที่จะเดินทางมาเที่ยว เยี่ยมญาติพี่น้อง หรือทำธุระ อ.โนนสุวรรณ หลายคนต้องหลงเสียเวลาเพราะไม่มีป้ายบอกทาง จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ เร่งเข้ามาตรวจสอบและทำป้ายขนาดใหญ่แนะนำทางเข้าตัวอำเภอ เหมือนกับอำเภออื่นๆ ด้วย

ขณะที่ นายชยุธ โลหกิจ แขวงการทางบุรีรัมย์ ออกมาชี้แจงว่า เมื่อต้นปี 2556 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านถึงกรณีดังกล่าวแล้ว และแขวงการทางได้ทำแผนเสนอไปยังกรมทางหลวงชนบท เพื่อของบมาดำเนินการทำป้ายแขวนสูงหรือโอเวอร์แฮ้งแนะนำเส้นทางรวมทั้งหมด 9 จุด เป็นเงินกว่า 1,640,000 บาท แต่ขณะนี้สิ้นปีงบประมาณแล้วยังไม่ได้รับอนุมัติงบจากกรมฯ ดังนั้นในปี 2557 ทางแขวงจะทำแผนเสนอไปยังกรมทางหลวงชนบทอีกครั้ง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านและผู้ที่จะเดินทางมา อ.โนนสุวรรณ อย่างเร่งด่วน



กำลังโหลดความคิดเห็น