นราธิวาส - โจรใต้กดบึ้มระเบิดหนัก 25 กก. หมายสังหาร สวป.สภ.สุไหงปาดี ขณะเข้าตรวจสอบที่เกิด เหตุคนร้ายยิงอาวุธปืนใส่จุดตรวจ โดยจุดชนวนระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือ แต่พลาดเป้ารัศมีทำลายหันตรงข้าม
เมื่อเวลา 07.05 น. วันนี้ (25 พ.ค.) พ.ต.ท.จิระเดช ปานพรมธรรมรงค์ สว.เวร สภ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณใต้ต้นกระท้อนตรงข้ามหน้าร้านรงค์พาณิชย์ ซึ่งจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 41 ถ.จารุเสถียร เขตเทศบาลตำบลปะลุรู อ.สุไหงปาดี จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตร ผกก.สภ.สุไหงปาดี พ.ต.อ.สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ผกก.สส.ภ.จ.นราธิวาส พ.ต.ท.เนติธร วัตตธรรม นักวิทยาศาสตร์ (สบ 3) กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ กองพิสูจน์หลักฐาน 10 ร.ต.ต.แชน วรงคไพสิฐ รอง หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบที่บริเวณใต้ต้นกระท้อนมีหลุมลึก 1 ฟุต กว้าง 2 ฟุต และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิคนิค หนัก 25 กก. จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือตกกระจายเกลื่อนพื้นถนนเป็นรัศมีกว้าง 100 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
โดย พ.ต.ต.กิตติสัณห์ เหิกขุนทด สวป.สภ.สุไหงปาดี เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุได้นำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.สุไหงปาดี จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการเดินทางมาที่บริเวณจุดตรวจตลาดล่าง ซึ่งตั้งอยู่ห่างจุดระเบิดประมาณ 50 เมตร เพื่อตรวจสอบเหตุคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด และขนาดยิงใส่จุดตรวจ จำนวน 6-7 นัดซ้อน ในช่วงเวลา 04.45 น. ของวันเดียวกันนี้
และขณะที่เดินเข้าไปตรวจสอบนั้น ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุได้ใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปวางไว้ใต้ต้นกระท้อน แต่รัศมีการทำลายล้างได้หักเห ทำให้ พ.ต.ต.กิตติสัณห์ สวป.สภ.สุไหงปาดี และพวก รอดตายไปได้อย่างหวุดหวิด
ด้าน พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตร ผกก.สภ.สุไหงปาดี เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลุ่มคนร้ายได้มีการวางแผนไว้อย่างดี โดยให้คนร้ายชุดแรกก่อกวนด้วยการขี่รถจักรยานยนต์ ใช้อาวุธปืนยิงใส่จุดตรวจ แล้วคนร้ายชุดที่ 2 ได้แอบแฝงตัวนำระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิคนิคมาวางไว้ใต้ต้นกระท้อน เพื่อจุดชนวนดักสังหารเจ้าหน้าที่ ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่เดินทางมาตรวจสอบเหตุยิงก่อกวนใส่จุดตรวจ
แต่โชคดีที่ สวป.สภ.สุไหงปาดี มีไหวพริบจึงได้จอดรถ และลงเดินไปตรวจสอบอย่างระมัดระวัง จึงทำให้ระเบิดที่เกิดขึ้นพลาดเป้าโดยรัศมีการทำลายล้างได้หักเหไปฝั่งตรงข้าม จึงไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตแต่อย่างใด