xs
xsm
sm
md
lg

อึ้ง! พบคุณยายวัย 85 ปี ชาวกาญจน์ลูกดก 25 คน เผยสูตรเด็ดชอบกิน “มะเขือต้มจิ้มน้ำพริก”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - อึ้ง! พบคุณยายวัย 85 ปี ชาวบ้านตำบลหนองโสน อำเภอเลาขวัญ กาญจนบุรี ลูกดกรวม 25 คน มีหลาน เหลน โหลน กว่า 70 คน ปัจจุบันลูกเหลือแค่ 11 คน ส่วนอีก 14 คน เสียชีวิตหมดแล้ว เผยสูตรเด็ดที่ทำให้ลูกดกเพราะชอบกิน “มะเขือต้มจิ้มน้ำพริก” เป็นชีวิตจิตใจและต้องกินทุกวัน เหล้าไม่ดื่ม บุหรี่ก็ไม่เคยสูบ แต่ยายก็เริ่มกินหมากมาตั้งแต่อายุ 11 ขวบ

เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (19 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านตำบลหนองโสน อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ว่า มีคุณยายอายุ 85 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 หมู่ 4 ต.หนองโสน อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี แต่งงานกับสามี และมีลูกด้วยกันเป็นชาย และหญิงรวมกันถึง 25 คน

นอกจากนั้น ยังมีหลาน เหลน โหลน อีกกว่า 70 คน หลังทราบจึงเดินทางไปตรวจสอบพบ นางฉาบ สระสีสม อายุ 85 ปี กำลังนอนพักผ่อนอยู่ภายในบ้าน พร้อมกับลูกสาวคนโต โดยพบว่า นางฉาบ ถึงแม้จะมีอายุมากแล้ว แต่สุขภาพก็ยังแข็งแรง พูดเสียงดังฟังชัดเป็นอย่างมาก

นางฉาบ เล่าว่า เดิมที่ยายเป็นคนตำบลท่าชัย อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ครอบครัวมีพี่น้องทั้งหมด 10 คน ยายเป็นคนที่ 5 ปัจจุบันครอบครัวของยายเสียชีวิตแล้ว 6 คน ยังมีชีวิตอยู่ 4 คน สมัยนั้นยายเรียนหนังสือจบชั้น ป.4 สมัยนั้นถือว่าเรียนสูงมาก หลังเรียนจบก็ได้รับการไว้วางใจจากผู้ใหญ่ในสมัยนั้นให้ไปสอนหนังสือแก่เด็กๆ ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างไกลออกไปจากหมู่บ้าน แต่ยายก็ได้ปฏิเสธไป เนื่องจากโรงเรียนดังกล่าวนั้นอยู่ไกลมาก ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการเดินทางเป็นวันๆ กว่าจะถึง อีกทั้งยายอายุยังน้อยอีกด้วย สมัยนั้นการเดินทางไม่เหมือนสมัยนี้โดยต้องต้องเดินทางด้วยเท้าเท่านั้น จึงขออยู่บ้านเพื่อทำงานช่วยเหลือครอบครัว

จนกระทั่งยายอายุได้ 18 ปี จึงได้พบรักกับหนุ่มเมืองกาญจน์ ชื่อนายจัน สระสีสม หลังจีบกันอยู่นาน จึงได้ตกลงใจแต่งงานกัน และย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่บ้านสามีคือที่อยู่ในปัจจุบัน อยู่กินกันได้แค่เดือนเดียวเท่านั้น ยายก็แพ้ท้อง และคลอดลูกคนแรกออกมาเป็นผู้ชาย ซึ่งก็เลี้ยงดูลูกอย่างคนสมัยโบร่ำโบราณ และหลังจากคลอดลูกคนแรกได้ไม่ถึงปี ยายก็ได้ตั้งท้องเรื่อยมาทุกปี ไม่มีเว้นแม้แต่ปีเดียว รวมตั้งท้องทั้งหมด 23 ครั้ง ใน 23 ครั้ง ลูกเกิดเป็นฝาแฝดถึง 2 ครั้ง ตลอดระยะเวลายายมีลูกทั้งหมด 25 คน เป็นชาย 11 คน เป็นหญิง 14 คน

แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงระหว่างที่ลูกมีอายุ 5-6 ปี ก็ได้เสียชีวิตรวมกันถึง 14 คน เพราะในสมัยนั้นมีโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เยอะมาก อีกทั้งการรักษาก็ไม่เหมือนทุกวันนี้ ซึ่งการเดินทางนำลูกหลานที่เจ็บไข้มาหาหมอที่โรงพยาบาลพหลพลพยุเสนา เป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องใช้เวลาในการเดินทางถึง 2 วัน 2 คืน จึงจะถึงโรงพยาบาล ทำให้ลูกของยายทยอยตายไปทีละคนๆ

ปัจจุบัน ลูกของยายที่ยังมีชีวิตอยู่ทั้งหมด 11 คน เป็นหญิง 7 คน เป็นชาย 4 คน โดยลูกที่เกิดกับยายทั้ง 25 คน ต่างทำคลอดที่บ้านทั้งหมด ไม่เคยมีลูกคนไหนมาคลอดที่โรงพยาบาลแม้แต่คนเดียว อีกทั้งสมัยนั้นครอบครัวของยายก็มีฐานะที่ยากจนมาก มีรายได้จากการออกไปรับจางเพียงวันละ 50 สตางค์เท่านั้น เงินที่ได้มาก็นำไปซื้อข้าวสารได้เพียง 1 ลิตร เพื่อนำมาหุงหาอาหารให้แก่ลูกๆ และหากวันไหนไม่มีเงินซื้อข้าวสาร คุณตาก็จะเข้าป่าไปเก็บขลุยไม้รวก และดอกไม้ไผ่ที่มีเมล็ด

จากนั้นก็นำมาร่อนจนเหลือแต่เมล็ดแล้วนำมาตำให้ขาว และนำมาหุงเป็นข้าวแทน แต่ลูกๆ ที่ยังเล็กก็กินไม่ได้เนื่องจากมันแข็งมาก ต้องไปขุดหัวกลอยจากในป่ามาบดปนกับเมล็ดไผ่แทน ถึงแม้สมัยนั้นจะยากลำบากเพียงได ยายกับตาก็ไม่เคยคิดที่จะทอดทิ้งลูกๆ แม้แต่คนเดียว และเลี้ยงลูกทั้ง 11 คน มาจนถึงทุกวันนี้ และทุกคนต่างก็มีครอบครัวกันไปหมดแล้ว บางคนก็แยกย้ายไปอยู่กับสามีแต่น่าเสียดายที่สามีของยายได้เสียชีวิตไปก่อนตั้งแต่ปี 2546 ขณะอายุได้ 76 ปี ปัจจุบัน ยายอาศัยอยู่กับลูกสาว 2 คน คือ คนที่ 7 อายุ 57 ปี และคนสุดท้องอายุ 43 ปี โดยลูกทั้ง 2 คนก็คอยดูแลยายอย่างใกล้ชิด

คุณยายฉาบ เล่าต่อว่า สาเหตุที่ทำให้ยายกับสามีมีลูกเยอะนั้น อาจจะเป็นเพราะสมัยก่อนนั้นยายชอบกินต้มมะเขือจิ้มกับน้ำพริกเป็นชีวิตจิตใจ และต้องกินทุกวัน และเหล้าไม่ดื่ม บุหรี่ก็ไม่เคยสูบ แต่ยายก็เริ่มกินหมากมาตั้งแต่ อายุ 11 ขวบ ซึ่งหนุ่มสาวสมัยก่อนนิยมกินหมากกันทุกคน แต่อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ถึงแม้ว่ายายจะมีสุขภาพที่แข็งแรงอยู่ และต้องการทำงานบ้าง แต่ลูกหลานก็ไม่ยอมขอให้อยู่บ้านเลี้ยงหลานๆ ก็พอ

ทุกวันนี้ยายมีทั้งหลาน เหลน และโหลน รวมกันมากกว่า 70 คน เมื่อถึงช่วงเทศกาลโดยเฉพาะช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ ทั้งหมดจะเดินทางมาเยี่ยมจนเต็มบ้านไปหมด และส่วนใหญ่จะปลูกบ้านอยู่ในพื้นที่เดียวกัน

ทั้งนี้ ยายมีรายได้จากเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 800 บาท โดยที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ยายอายุ 85 ปี เคยไปรักษาที่โรงพยาบาลเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ครั้งแรกเนื่องจากปีนขึ้นไปเก็บลูกกระท้อนแล้วพลาดตกลงมาบาดเจ็บลูกหลานจึงนำไปรักษาที่โรงพยาบาล

ส่วนครั้งที่ 2 เป็นเพราะว่าถุงน้ำดีอักเสบจึงไปรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ ยายไม่เคยเป็นแม้แต่ครั้งเดียว และทุกวันนี้ก็ยังกวาดบ้านถูบ้านได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น