พบวัวกระทิงโทนหลงป่าหวั่นเกิดอันตราย วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยเหลือ

ชุมพร - พบวัวกระทิงโทนหลงป่าเดินข้ามถนน คึกเดินป้วนเปี้ยนจะผสมพันธุ์วัวตามคอกของชาวบ้าน ผู้ว่าฯ หวั่นเกิดอันตรายประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยเหลือ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (19 ก.ค.) นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.ชุมพร นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอทุ่งตะโก นายเมตตา กปิตถัย รอง ผอ.วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชุมพร เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมชุมพร ได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 1/16 หมู่ที่ 8 ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ของ นายประสิทธิ์ ฤทธิกุล อายุ 53 ปี และนางพรทิพย์ ฤทธิกุล อายุ 41 ปี สองสามีภรรยาเป็นเจ้าบ้าน หลังสองสามีภรรยาแจ้งว่ามีผู้พบกระทิงป่าขนาดใหญ่ตัวหนึ่งหลงป่าลงมาอยู่ในสวนหลังบ้านดังกล่าว

โดย นายประสิทธิ์ ฤทธิกุล เจ้าของบ้านเล่าว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 กรกฎาคม 2556 ขณะที่ตนกำลังนั่งอยู่บนบ้าน ก็เห็นกระทิงป่าขนาดใหญ่สูงกว่า 2 เมตร ลำตัวยาวประมาณ 3 เมตร วิ่งข้ามถนนสายเอเชีย 41 ซึ่งเป็นถนนสายหลักของภาคใต้ มายังต้นกระท้อนในสวนหลังบ้านของตนที่อยู่ห่างจากถนนประมาณ 200 เมตร ตอนนั้นตนรู้สึกตกใจมากจึงแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ

ขณะที่ นายชัยวุฒิ โพธิ์น่วม อาจารย์โรงเรียนวัดท่าสุธาราม อ.ทุ่งตะโก เปิดเผยเช่นกันว่า ตนเคยเห็นกระทิงตัวดังกล่าวมาแล้วเดินข้ามถนนสายเอเชีย 41 ตนยังได้ถ่ายภาพเก็บเอาไว้ด้วย

ด้านนายเมตตา กปิตถัย รอง ผอ.วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชุมพรกล่าวว่า เมื่อประมาณต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ก็มีอาจารย์ และนักศึกษาของวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชุมพร(วษท.ชุมพร) พบกระทิงป่าที่น่าจะเป็นตัวเดียวกันเดินหากินอยู่ในสวนเกษตรของวิทยาลัยฯ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ด้วยเช่นกัน

นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.ชุมพร กล่าวว่า จากการสอบถามชาวบ้าน และผู้เกี่ยวข้องทราบว่า กระทิงป่าตัวดังกล่าวเป็นเพศผู้ซึ่งเป็น “กระทิงโทน” มักไม่ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง และคาดว่าคงเป็นกระทิงป่าที่อาศัยอยู่ในป่าเขาระหว่างรอยต่อ จ.ชุมพรกับ จ.ระนอง ได้หลงเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าวซึ่งมีเกษตรกรเลี้ยงวัวหลายราย จึงอาจเป็นไปได้ว่ากระทิงตัวนี้เข้ามาในพื้นที่เพื่อต้องการผสมพันธุ์ เพราะมีชาวบ้านพบเห็นชอบเดินป้วนเปี้ยนอยู่ตามคอกวัวด้วย ตนจึงเกรงว่ากระทิงตัวนี้อาจได้รับอันตรายเพราะวิ่งข้ามไปข้ามมาบนถนนสายเอเชีย 41 ซึ่งเป็นถนนสายหลักลงสู่ภาคใต้ที่รถส่วนใหญ่ใช้ความเร็วสูง และเกรงว่าอาจมีชาวบ้านใช้อาวุธปืนล่า หรือทำแร้วดักจับกระทิงตัวนี้ จึงขอความร่วมมือจากผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยบอกชาวบ้านให้ช่วยกันป้องกันไม่ให้ใครทำอันตรายกระทิงตัวนี้ที่ถือเป็นสัตว์หายาก พร้อมสั่งให้อำเภอทุ่งตะโก ทำป้าย “ระวังกระทิงข้ามถนน” ไปติดตั้งริมถนนสายเอเชีย 41 ทั้งสองฝั่งเป็นระยะ เพื่อขอให้รถทุกคันเพิ่มความรัดระวังด้วย

“ผมได้ประสานไปยังกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ขอให้ส่งเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ เช่น ปืนฉีดยาสลบลงมาติดตามค้นหากระทิงตัวนี้แล้ว เพื่อจับกระทิงตัวนี้ไปดำเนินการตามขั้นตอนของกรมอุทยานฯ ซึ่งวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชุมพร ได้เสนอว่าพร้อมจะจัดหาสถานที่เอาไว้ให้กระทิงป่าตัวนี้ได้ใช้ชีวิตอยู่ในป่าเขตพื้นที่ของวิทยาลัยฯ และในอนาคตข้างหน้า จ.ชุมพร กำลังจะมีสวนสัตว์เปิดที่เขาดินสอ อ.ปะทิว จึงอาจนำกระทิงตัวนี้ไปปล่อยไว้ที่นั่นก็ได้ การพบกระทิงป่าในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ป่าไม้ใน จ.ชุมพร ยังมีสภาพอุดมสมบูรณ์มาก” นายพีระศักดิ์กล่าว