อุดรธานี - ชาวอุดรฯ ทนไม่ไหว ร่อนหนังสือร้องเรียน ผบช.ภาค 4 สตช. สำนักนายก ป.ป.ช.สอบเอาผิดวินัย ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี หลัง ตำรวจ บก.สส.สตม. บุกจับแก๊งค้ามนุษย์และค้าประเวณีในท้องที่ ล่วงเลยผ่านมากว่า 5 เดือน เรื่องเงียบยังอยู่สุขสบาย ย้ำเป็นความผิดละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ซ้ำยังปล่อยให้ซ่องเปิดค้าประเวณีโจ่งแจ้งเย้ยกฎหมาย ไม่รวมถึงบ่อนพนันออนไลน์เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เผยหน่วยเหนือไม่กล้าแตะเพราะเป็นเด็กแกนนำแดง “ขวัญชัย”
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ได้มีหนังสือร้องเรียนจากชาวอุดรธานีกลุ่มหนึ่งส่งถึงผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4 ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ตรวจการแผ่นดิน คณะกรรมการสิทธิ และประธาน ป.ป.ช. กรณีการกระทำความผิดมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของ พ.ต.อ.โกวิท เจริญวัฒนศักดิ์ ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี กรณีที่ปล่อยให้มีการค้ามนุษย์และค้าประเวณีในพื้นที่รับผิดชอบ โดยไม่มีการดำเนินการใดๆ ในฐานะตำรวจเจ้าของพื้นที่
รายละเอียดของเอกสารดังกล่าวลงวันที่ 1 พ.ย. 2556 ลงท้ายว่า ประชาชนจังหวัดอุดรธานี เนื้อความในเอกสาร ระบุว่า เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ชัยวุฒิ จันทร์สมบูรณ์ ผกก.1 บก.สส.สตม. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้บุกเข้าจับกุมโรงแรมบานเย็น เกี่ยวเนื่องบ้านเลขที่ 405/3 ซอย 7 ถนนอดุลย์เดช ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้ผู้ต้องทั้งชาวไทยและชาวลาวรวมนับสิบราย โดยมี ร.ต.อ.สมิง โถทอง รับคำร้องทุกข์ตามคดีอาญา เลขที่ 2898-2905/56
เอกสารดังกล่าวระบุต่อด้วยว่า การจับกุมแก๊งค้ามนุษย์และแก๊งค้าประเวณีผ่านมานานหลายเดือน แต่จนบัดนี้ (1 พ.ย.) ยังไม่มีการดำเนินการทางวินัยต่อตำรวจเจ้าของพื้นที่แต่อย่างใด ซึ่งขัดกับนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากมีตำรวจนอกหน่วยเข้ามาจับกุม ผู้บังคับบัญชาต้องดำเนินการย้ายออกนอกพื้นที่ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ตำรวจทั่วประเทศ แต่ สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.โกวิท เจริญวัฒนศักดิ์ เส้นใหญ่ใม่มีใครกล้าแตะ
นอกจากนี้ ยังมีการแนบสำเนาเอกสารบันทึกการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.สตม. จำนวน 4 หน้ากระดาษ ลงวันที่ 29 พ.ค.2556 โดยไม่มีตำรวจเจ้าของพื้นที่เข้าร่วมจับกุมแต่อย่างใด และสำเนาโทรสารในราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด่วนที่สุด ลงวันที่ 15 มิถุนายน 2556 ให้ พ.ต.อ.คณากร รุ่งขจรกลิ่น ผกก.สภ.นครสวรรค์ ไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร.โดยขาดจากต้นสังกัด
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด บก.ปคม. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ และ บก.สส.ภ.6 จับกุมผู้ต้องหา 1 ราย ในความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยการแสวงหาผลประโยชน์จากการค้าประเวณี ซึ่งมีหญิงสาวเป็นคนต่างด้าวอายุระหว่าง 14-18 ปี จำนวน 9 คน ซึ่งเป็นการดำเนินการ 2 มาตรฐานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
อย่างไรก็ตาม จากการสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมของผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าว ซึ่งเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในสังกัดตำรวจภูธร ภาค 4 อีกว่า ในตัวเมืองเขตเทศบาลเมืองอุดรธานี มีการเปิดหน้าร้านให้มีการค้าประเวณีในย่านชุมชนอย่างโจ่งแจ้งเป็นจำนวนหลายสิบร้าน หรือที่รู้จักกันว่าย่านซอย 7 ซึ่งเป็นย่านที่เปิดให้บริการทางเพศค้าประเวณีมานานหลายปีแล้ว เป็นที่รู้จักกันดีของนักเที่ยว
ร้านค้าประเวณีเหล่านี้จะมีทั้งหญิงไทย และหญิงลาวไว้คอยให้บริการแขกนักเที่ยวแต่ละร้านหลายสิบราย ถึงแม้ว่าจะมีตำรวจนอกหน่วยเข้ามาดำเนินการจับกุมไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็ยังพบว่าทุกวันนี้ยังเปิดให้บริการใหม่เป็นปกติ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย และตำรวจในพื้นที่ก็ไม่กล้าเข้ามาจับกุมดำเนินคดีแต่อย่างใด
นอกจากนี้ จังหวัดอุดรธานี ยังมีการเปิดบ่อนออนไลน์ หรือที่รู้จักกันว่าร้านบัคคาราจำนวนหลายสิบร้าน โดยเปิดให้บริการกับนักพนันตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นสาเหตุก่อให้เกิดคดีอาชญากรรม สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนท้องถิ่นจำนวนมาก ถึงแม้จะมีการร้องเรียนไปยังตำรวจในพื้นที่แต่ไม่มีการดำเนินการ หรือเข้าจับกุมแต่อย่างใด
แหล่งข่าวเล่าอีกว่า ถึงแม้จะมีตำรวจนอกหน่วยเข้ามาจับกุมบ่อนการพนันออนไลน์ แต่จะมีสายรายงานซึ่งเชื่อว่าเป็นคนวงในของตำรวจแจ้งไปยังร้านบัคคาราให้รีบทำการปิดร้านทันที จนกว่าตำรวจนอกหน่วยจะออกนอกพื้นที่ จึงจะเปิดให้บริการใหม่ ซึ่งการลงพื้นที่ของตำรวจนอกหน่วยแต่ละครั้งจึงทำให้ตำรวจนอกหน่วยคว้าน้ำเหลว หรือจับได้แต่ร้านบ่อนพนันเล็กๆ
สำหรับร้านบัคคาราในเมืองอุดรธานี หรือในจังหวัดอื่นๆ ในภาคอีสานนั้น จะสังเกตง่ายๆ จะมีรูปแบบคล้ายร้านอินเทอร์เน็ตทั่วไป แต่จะปิดทึบด้วยสติกเกอร์ซึ่งจะรู้จักกันดีในกลุ่มนักพนัน
ส่วน พ.ต.อ.โกวิท เจริญวัฒนศักดิ์ ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นคนใกล้ชิดนายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร ซึ่งเคยมีคลิปภาพวิดีโอคำพูดของนายขวัญชัย ที่ระบุว่า “ผู้การจังหวัดอื่นอยากจะมา แต่มันลืมไปว่าจังหวัดอุดรฯเป็นของผม ดูไบจะเปลี่ยนผู้การฯ อุดร จะต้องถามผมก่อน”
พฤติกรรมคำพูดที่นายขวัญชัย แสดงออกมาดังกล่าวตอกย้ำให้เห็นว่า หากมีการโยกย้าย แต่งตั้งข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ หรือข้าราชการสายปกครองเข้ามาในจังหวัดอุดรธานี จะต้องผ่านการการันตีจากนายขวัญชัย และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนกิจกรรมของกลุ่มคนเสื้อแดงทุกทาง
