ศูนย์ข่าวศรีราชา - สาวใหญ่เมืองตราด อุ้มลูกสาววัย 3 ปี เตรียมกระโดดสะพานแม่น้ำตราด โชคดีคนตกปลาเห็นแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือทัน เผยสาเหตุเพราะถูกสามีทำร้าย แม้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือก็ทำอะไรไม่ได้
เมื่อเวลาประมาณ 22.53 น. คืนที่ผ่านมา (1 พ.ย.) ด.ต.สมศักดิ์ สุดสาคร เจ้าหน้าที่ตำรวจสื่อสาร สภ.เมืองตราด ได้รับแจ้งจากคนตกปลาว่า มีหญิงสาวอุ้มลูก และถือมีดไว้ในมือเตรียมกระโดดสะพานข้ามแม่น้ำตราดเพื่อฆ่าตัวตาย จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยตราด เพื่อตรวจสอบ และให้การช่วยเหลือ
และเมื่อเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พบหญิงสาวนั่งอุ้มลูกสาวไว้แน่นอยู่บริเวณกลางสะพาน และร้องไห้คร่ำครวญ เจ้าหน้าที่กู้ภัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไปสอบถาม ทราบชื่อคือ นางนกฤตปรียา แพทย์นุเคราะห์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 4 ต.เนินทราย อ.เมือง จ.ตราด พร้อมบอกว่า ตนทะเลาะกับสามี และถูกสามีทำร้ายร่างกาย โดยได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตำรวจก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะสามีมีพรรคพวกเป็นตำรวจเช่นกัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยตราดจึงพยายามช่วยกันเกลี้ยกล่อมให้ นางนกฤตปรีชา ขึ้นรถไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเดินทางไปยัง สภ.เมืองตราด แต่เมื่อไปถึง นางนกฤตปรียา ไม่ยอมลงจากรถโดยอ้างว่าเกรงจะถูกสามีตามมาทำร้าย เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เป็นหญิงต้องช่วยกันประคองนางนกฤตปรียา และลูกลงจากรถ
ขณะเดียวกัน ร.ต.ท.เทิดศักดิ์ รัตนพิทักษ์ ร้อยเวร สภ.เมืองตราด ได้บอกแก่ผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นเจ้าของคดีทำร้ายร่างกาย ที่นางนกฤตปรียา มาแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองตราด เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผานมา โดยแจ้งว่าถูกนายสมภพ เรืองขจิตร สามี อายุประมาณ 44 ปี ทำร้ายร่างกาย และมีบาดแผลฟกช้ำที่บริเวณแขนซ้าย ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินคดี
ส่วน นางนกฤตปรียา ตนได้ติดต่อไปยังสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ตราด ให้เข้าช่วยเหลือ และมอบเงินให้จำนวนหนึ่งเพื่อเดินทางไปร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธีปวีณา ที่กรุงเทพฯ ซึ่งมูลนิธิฯ ได้ส่งกลับพร้อมให้เงินมาด้วยจำนวนหนึ่ง หลังจากนั้นสำนักงานบ้านและครอบครัว จ.ตราด ยังได้รับ นางนกฤตปรียา ไปดูแล แต่นางนกฤตปรียา ได้ขอออกมาเช่าบ้านอยู่เองกระทั่งเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น