ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ดีเอสไอเชิญอาจารย์จาก สพม.34 ให้ข้อมูลโครงการศึกษาต่อไต้หวัน หลังผู้ปกครอง-นักเรียนแห่ร้องเรียนหวั่นโดนตุ๋น เผยเปิดโอกาสให้ชี้แจง-รับทราบข้อมูล พร้อมเร่งเดินหน้ารวบรวมข้อมูลหลังพบจุดต้องสงสัยหลายเรื่อง ระบุหากเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษเตรียมรับมาดำเนินการ
นายพิชิตพล สุทธิสานนท์ ศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ ผู้อำนวยการกลุ่มนิเทศก์ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 34 พร้อมคณะ เข้าให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในวันนี้ (29 ต.ค.) ภายหลังจากถูกกลุ่มผู้ปกครองและนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการส่งเสริมนักเรียนไทยไปศึกษาต่อที่ประเทศไต้หวันระบุว่าเป็นผู้ให้ข้อมูล ประสานงานและดำเนินการจัดเก็บเงินจากกลุ่มผู้ปกครองและนักเรียน
การเข้าให้ข้อมูลของนายพิชิตพลและคณะต่อดีเอสไอในครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากที่ผู้ปกครองและนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการส่งเสริมนักเรียนไทยไปศึกษาต่อที่ประเทศไต้หวันได้เข้าร้องเรียนต่อดีเอสไอเพื่อขอให้ดำเนินการสืบสวนเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว หลังจากที่ผู้ปกครองและนักเรียนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถเดินทางไปศึกษาต่อ ณ ประเทศไต้หวันตามโครงการดังกล่าวได้ ทั้งที่เสียเงินค่าใช้จ่ายรายละ 40,000 บาทให้แก่มูลนิธิการศึกษาจากประเทศไต้หวันไปแล้ว
ทั้งนี้ ในการเข้าให้ข้อมูลดังกล่าว นายพิชิตพล และคณะได้นำหลักฐานเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาแสดงต่อพนักงานสอบสวนของดีเอสไอเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ พร้อมทั้งระบุว่าเงินค่าใช้จ่ายในการดำเนินการรายละ 40,000 บาทที่ตนเองเป็นผู้ดำเนินการจัดเก็บ รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 6.6 ล้านบาทนั้นได้ส่งมอบแก่ Mr.Chu Chi Ping หรือ Peter Chu ตัวแทนจากมูลนิธิการศึกษาจากประเทศไต้หวันแล้ว โดยมีพยานหลักฐานในการส่งมอบเงินชัดเจน ขณะที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้สอบถามถึงที่มาของโครงการดังกล่าว รวมถึงการเดินทางไปดูงานของคณะอาจารย์ที่ประเทศไต้หวันทั้งสองครั้งว่ามีผู้ใดเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย และสถาบันการศึกษาที่คณะได้ไปดูงานนั้นมีอยู่จริงหรือไม่ เป็นต้น
นายพงศ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษเปิดเผยว่า การเชิญเจ้าหน้าที่จาก สพม.34 มาให้ข้อมูลในครั้งนี้เพื่อสอบถามในประเด็นการนำนักเรียนไปศึกษาต่อยังประเทศไต้หวันตามโครงการของมูลนิธิการศึกษาจากประเทศไต้หวัน หรือ Education Center of Promotion International Student Taiwan ทั้งในส่วนของกระบวนการรับรู้ถึงข้อมูลของโครงการดังกล่าว การเดินทางไปศึกษาดูงานที่ประเทศไต้หวันของเจ้าหน้าที่จาก สพม.34 และคณะครูอาจารย์จากสถาบันการศึกษาต่างๆ การประสานงานกับผู้ปกครองและนักเรียนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ การดำเนินการจัดเก็บค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจำนวนรายละ 40,000 บาท และปัญหาที่เกิดขึ้นภายหลังจากที่นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการไม่ได้รับวีซ่าให้เข้าประเทศไต้หวัน ซึ่งจนถึงขณะนี้พบว่ามีมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้นประมาณ 9 ล้านบาท และมีผู้ได้รับความเสียหายประมาณ 222 ราย
นายพงศ์อินทร์กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะมีการพบปะกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทยในวันนี้ เพื่อสอบถามถึงกระบวนการพิจารณาออกวีซ่าและความเป็นไปได้ในการไปศึกษาต่อตามโครงการดังกล่าว ซึ่งจะมีผลต่อแนวทางการสอบสวน เนื่องจากด้วยข้อมูลต่างๆ ที่มีอยู่ในขณะนี้แสดงว่าการไปศึกษาต่อตามโครงการดังกล่าวนั้นไม่น่าจะมีความเป็นไปได้ และอาจจะเข้าข่ายการหลอกลวง ซึ่งจะต้องตรวจสอบว่าบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องนั้นรู้ถึงความเป็นไปได้ในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ ส่วนกรณีของมูลนิธิการศึกษาจากประเทศไต้หวันนั้น ขณะนี้ได้มีการประสานไปยังทางไต้หวันเพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อมูลแล้วเช่นกัน
ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคงระบุว่า ตลอดสัปดาห์นี้ดีเอสไอจะเชิญเจ้าหน้าที่จาก สพม.34 เข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว รวมทั้งจะดำเนินการตรวจสอบไปยังสถาบันการศึกษาต่างๆ ที่ได้ร่วมลงนามในบันทึกความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยทั้ง 7 แห่งจากประเทศไต้หวันที่ร่วมในโครงการดังกล่าว หลังจากนั้นจะพิจารณาว่ากรณีดังกล่าวเข้าเงื่อนไขการดำเนินการของดีเอสไอหรือไม่ หากเห็นว่าอยู่ในเงื่อนไขที่จะเป็นคดีพิเศษก็จะรับคดีดังกล่าวมาดำเนินการต่อไป