ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านโพธิ์ เมืองแปดริ้วทุกข์หนัก หลังระดับน้ำที่ท่วมขังนานกว่า 3 สัปดาห์ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง และยังทำให้นาข้าว และบ่อเลี้ยงปลาได้รับความเสียหายทั้งหมด
นายสุเทพ ช้างแย้ม ชาว ต.สิบเอ็ดศอก อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงปัญหาความเดือดร้อนที่ได้รับหลังจากที่มีน้ำจากตอนบนของ จ.ฉะเชิงเทรา ไหลเข้ามาท่วม อ.บ้านโพธิ์ นานกว่า 3 สัปดาห์ และยังไม่มีทีท่าว่าจะลดระดับลงว่า ไม่เพียงแต่จะทำให้นาข้าวกว่า 30 ไร่ ถูกน้ำท่วมขังเสียหายทั้งหมด ทั้งที่เพิ่งลงมือหว่านได้เพียง 20 วันก่อนเกิดเหตุน้ำท่วมพื้นที่แล้ว บ่อเลี้ยงปลากะพงของบุตรชายอีก 2 บ่อ รวมพื้นที่ 10 ไร่ ยังได้รับความเสียหายจากการน้ำท่วมหมดเช่นกัน
“ขณะนี้ครอบครัวหมดสิ้นอาชีพทำกิน และไม่มีรายได้ จึงได้แต่นับวันรอน้ำที่จะลดลงเท่านั้น ซึ่งปกติแล้วช่วงฤดูฝนก็จะมีน้ำท่วมขังในทุ่งนาแต่ก็ไม่เคยมีท่วมสูงถึง 1.5 เมตรอย่างในปีนี้” นายสุเทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่ทำให้ระดับน้ำในพื้นที่ อ.บ้านโพธิ์ ลดลงล่าช้ามาจากการบริหารจัดการประตูระบายน้ำบริเวณเส้นทางเดินน้ำทิ้งก่อนปล่อยลงสู่แม่น้ำบางปะกง
โดยเฉพาะประตูระบายน้ำในเขตพื้นที่ ม.2 ต.ท่าพลับ ซึ่งมีผู้นำชุมชนบางรายร้องขอดูแลกุญแจจากทางกรมชลประทาน เพื่อควบคุมการเปิดปิดประตูระบายน้ำเอง แต่สุดท้ายกลับไม่ดูแล และปล่อยให้ปิดตายอยู่เป็นเวลานาน โดยไม่มีผู้ใดเข้ามารับผิดชอบในการควบคุมการปิด-เปิด การระบายน้ำตามช่วงเวลาที่น้ำทะเลหนุน ขึ้น-ลงแต่อย่างใด
อีกทั้งเครื่องสูบระบายน้ำที่กรมชลประทานนำมาติดตั้ง ก็ไม่มีการจัดหางบประมาณสนับสนุนในการจัดซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงมาเติมเพื่อสูบระบายน้ำออก จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การระบายน้ำออกจากพื้นที่เป็นไปอย่างล่าช้า และทำให้ระดับน้ำท่วมขังหยุดนิ่งโดยที่ไม่มีแนวโน้มว่าจะลดระดับลง