บุรีรัมย์ - น้ำมูลเอ่อท่วมนาข้าว และสวนผลไม้ในศูนย์ร่มโพธิ์แก้วของ “พระพยอม” สาขา 7 ที่บุรีรัมย์ ร่วม 100 ไร่ บางส่วนรากเน่ายืนต้นตายแล้ว ขณะ จนท.พร้อมชาวบ้านเร่งขนย้ายข้าวของ และอพยพวัว หมู แพะ กว่า 100 ตัวที่ไถ่ชีวิตจากโรงเชือดขึ้นที่สูง ขณะระดับน้ำยังเพิ่มต่อเนื่องหวั่นซ้ำรอยปี 53
วันนี้ (19 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในลำน้ำมูลที่ไหลผ่าน จ.บุรีรัมย์ ยังมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังน้ำเหนือจาก จ.นครราชสีมา รวมทั้งน้ำจากลำปะเทีย ลำน้ำมาศ ในเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ไหลลงมาสมทบ ซึ่งล่าสุด ขณะนี้น้ำในลำน้ำมูลได้เอ่อเข้าท่วมนาข้าวที่ศูนย์ร่มโพธิ์แก้ว สาขา 7 ของพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ที่ตั้งอยู่บ้านวังปลัด ต.บ้านแพ อ.คูเมืองจ.บุรีรัมย์ แล้วเกือบ 100 ไร่ จากที่ปลูกไว้ทั้งหมด 200 ไร่ เพื่อเก็บผลผลิตไว้เลี้ยงดูคนงาน เด็กยากไร้ และคนชราที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิร่มโพธิ์แก้วทั้ง 8 สาขา
โดยขณะนี้ระดับน้ำได้ท่วมต้นข้าวสูงเกือบ 1 เมตร และคาดว่าหากถูกน้ำท่วมขังนานเกิน 2 สัปดาห์ก็จะเน่าตายเสียหาย นอกจากนี้ น้ำยังได้เอ่อท่วมสวนผลไม้ เช่น ต้นมะม่วง ชมพู่ กล้วย ที่ปลูกไว้ภายในศูนย์ฯ แล้วกว่า 100 ต้น จากที่ปลูกไว้ประมาณ 200 ไร่ และบางส่วนได้แช่น้ำรากเน่ายืนต้นตายแล้ว ส่วนอาคารอเนกประสงค์ขณะนี้ถูกน้ำท่วมบริเวณบันไดแล้ว และอีกประมาณ 2 นิ้ว น้ำจะไหลเข้าท่วมอาคาร ขณะที่ระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ด้าน พระวุฒิ พระผู้ดูแลศูนย์ร่มโพธิ์แก้ว สาขา 7 บุรีรัมย์ ได้ให้เจ้าหน้าที่ และคนงานภายในศูนย์ เร่งช่วยกันขนย้ายข้าวของภายในซูเปอร์มาร์เกตขึ้นที่สูงแล้ว พร้อมทั้งให้ทำการขนย้ายสัตว์เลี้ยง ทั้งวัว แพะ และหมู กว่า 100 ตัว ที่ญาติโยมไถ่ชีวิตมาจากโรงฆ่าสัตว์ แล้วนำมาบริจาคให้ทางวัดเลี้ยงขึ้นไปเลี้ยงไว้บนชั้น 2 ของอาคารอเนกประสงค์หลังใหม่ และบางส่วนเลี้ยงไว้บนแพ
ส่วนบ่อปลาที่ญาติโยมนำมาปล่อยจำนวนหลายพันตัวได้ทำตาข่ายล้อมรอบไว้แล้ว เพื่อความปลอดภัย และป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากภาวะน้ำท่วมซ้ำรอยปี 2553 ที่สร้างความเสียหายหลายล้านบาท ซึ่งขณะนี้น้ำจากลำน้ำมูลได้เอ่อท่วมล้อมรอบบริเวณศูนย์ร่มโพธิ์แก้ว หมดแล้ว