“พระพะยอม” เตือนผีพนันในคราบพระอย่าย่ำยีศาสนา แนะสำนึกหลักวินัยสงฆ์ วอนญาติโยมสอดส่องเป็นหูเป็นตา ด้าน “เครือข่ายต้านพนัน” ชูโครงการวัดปลอดพนัน หวังสร้างต้นแบบวัดห่างไกลพนัน
วันนี้ (29 พ.ค.) พระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวพระสงฆ์ไปเกี่ยวข้องกับการเล่นพนันหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมาว่า ถือเป็นการทำผิดหลักของสงฆ์ ล่าสุด เห็นว่าทางสำนักสงฆ์จังหวัดกำลังดำเนินการ โดยส่วนตัวมองว่าพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนานั้นต้องมีสิ่งที่เรียกว่าสมณสัญญา หรือการกำหนดในใจว่าตนเป็นสมณะ การไม่มีสมณสัญญาคือการหลุดจากการเป็นสงฆ์ เรื่องของการทำผิด ประพฤติผิดแบบนี้ ถือว่ามีกันทุกองค์กรอยู่แล้ว ทหารยังมีนอกแถว นักการเมืองยังมีนอกแถว พระสงฆ์ก็เช่นกัน
“สิ่งที่ควรทำคือ ทุกคนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา ช่วยกันไม่ให้ใครมาย่ำยีพระพุทธศาสนา หากเห็นว่าพระสงฆ์ประพฤติปฏิบัติมิชอบ ต้องช่วยกันแจ้ง อย่าทำบุญ อย่าสนับสนุน สื่อก็เช่นกัน ควรนำเสนอพระที่ปฏิบัติดีจะได้เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่สังคม เราทุกคนเป็นเจ้าของศาสนา หากไม่ช่วยกันศาสนาจะเสื่อมลง หากเปรียบกับธรรมะขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในธรรมวินัยของพระองค์ก็เหมือนทะเลใหญ่ การปฏิบัติมิชอบก็เหมือนเฉกเช่นขยะ ท้ายที่สุดก็ต้องลอยมาติดฝั่ง ในขณะเดียวกัน หากประพฤติปฏิบัติชอบก็เปรียบเสมือนก้อนหินที่หนักแน่น ซึ่งจะไม่มีวันลอยไปไหน จะยังคงเย็น และอยู่ในทะเล”พระราชธรรมนิเทศ กล่าว
ด้านนายธนากร คมกฤส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า “ปรากฏการณ์พระสงฆ์เล่นการพนันนี้น่าจะเป็นเพียงคนส่วนน้อยที่มาแอบอิงอาศัยร่มเงาของพระพุทธศาสนากระทำผิด พระสงฆ์ที่ประพฤติดีปฏิบัติชอบยังมีอีกมาก เรื่องที่น่ากังวลคือ หากไม่มีการปรับวิธีการคัดเลือก หรือกลั่นกรองบุคคลที่จะมาบวชเป็นพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาก็จะทำให้คนไม่ดีเหล่านี้กระทำผิดสร้างความเสื่อมเสียแก่ศาสนาอยู่เรื่อยๆ ทำให้ญาติโยมเอือมระอา และหมดความศรัทธาในศาสนาไปทุกวัน
“ขณะนี้เครือข่ายรณรงค์หยุดพนันได้ร่วมกับ 30 วัดทั่วประเทศดำเนินโครงการวัดปลอดพนัน เพื่อสร้างต้นแบบปฏิบัติการดีๆ โดยพระสงฆ์ เป็นแบบอย่างแก่สังคม สร้างเสียงทางธรรมนำพาคนให้ห่างจากการพนัน การที่มีผู้มาอาศัยผ้าเหลืองเล่นพนันนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งของความท้าทาย เพราะการจะทำให้วัดปลอดพนันได้ต้องเริ่มที่ผู้ที่อาศัยอยู่ในวัด คือ พระ และลูกศิษย์วัดเป็นสำคัญ ถ้าเจ้าของพื้นที่เป็นเสียเอง ก็คงจะทำให้วัดปลอดพนันไม่ได้ ชุมชนต้องช่วยกันดูแล จะปล่อยให้เป็นภาระของพระสงฆ์ดีๆ เพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ เราต้องเชื่อว่าหากหลายฝ่ายรวมพลังกัน สิ่งดีๆจะเกิดขึ้นได้”นายธนากรกล่าว
วันนี้ (29 พ.ค.) พระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวพระสงฆ์ไปเกี่ยวข้องกับการเล่นพนันหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมาว่า ถือเป็นการทำผิดหลักของสงฆ์ ล่าสุด เห็นว่าทางสำนักสงฆ์จังหวัดกำลังดำเนินการ โดยส่วนตัวมองว่าพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนานั้นต้องมีสิ่งที่เรียกว่าสมณสัญญา หรือการกำหนดในใจว่าตนเป็นสมณะ การไม่มีสมณสัญญาคือการหลุดจากการเป็นสงฆ์ เรื่องของการทำผิด ประพฤติผิดแบบนี้ ถือว่ามีกันทุกองค์กรอยู่แล้ว ทหารยังมีนอกแถว นักการเมืองยังมีนอกแถว พระสงฆ์ก็เช่นกัน
“สิ่งที่ควรทำคือ ทุกคนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา ช่วยกันไม่ให้ใครมาย่ำยีพระพุทธศาสนา หากเห็นว่าพระสงฆ์ประพฤติปฏิบัติมิชอบ ต้องช่วยกันแจ้ง อย่าทำบุญ อย่าสนับสนุน สื่อก็เช่นกัน ควรนำเสนอพระที่ปฏิบัติดีจะได้เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่สังคม เราทุกคนเป็นเจ้าของศาสนา หากไม่ช่วยกันศาสนาจะเสื่อมลง หากเปรียบกับธรรมะขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในธรรมวินัยของพระองค์ก็เหมือนทะเลใหญ่ การปฏิบัติมิชอบก็เหมือนเฉกเช่นขยะ ท้ายที่สุดก็ต้องลอยมาติดฝั่ง ในขณะเดียวกัน หากประพฤติปฏิบัติชอบก็เปรียบเสมือนก้อนหินที่หนักแน่น ซึ่งจะไม่มีวันลอยไปไหน จะยังคงเย็น และอยู่ในทะเล”พระราชธรรมนิเทศ กล่าว
ด้านนายธนากร คมกฤส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า “ปรากฏการณ์พระสงฆ์เล่นการพนันนี้น่าจะเป็นเพียงคนส่วนน้อยที่มาแอบอิงอาศัยร่มเงาของพระพุทธศาสนากระทำผิด พระสงฆ์ที่ประพฤติดีปฏิบัติชอบยังมีอีกมาก เรื่องที่น่ากังวลคือ หากไม่มีการปรับวิธีการคัดเลือก หรือกลั่นกรองบุคคลที่จะมาบวชเป็นพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาก็จะทำให้คนไม่ดีเหล่านี้กระทำผิดสร้างความเสื่อมเสียแก่ศาสนาอยู่เรื่อยๆ ทำให้ญาติโยมเอือมระอา และหมดความศรัทธาในศาสนาไปทุกวัน
“ขณะนี้เครือข่ายรณรงค์หยุดพนันได้ร่วมกับ 30 วัดทั่วประเทศดำเนินโครงการวัดปลอดพนัน เพื่อสร้างต้นแบบปฏิบัติการดีๆ โดยพระสงฆ์ เป็นแบบอย่างแก่สังคม สร้างเสียงทางธรรมนำพาคนให้ห่างจากการพนัน การที่มีผู้มาอาศัยผ้าเหลืองเล่นพนันนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งของความท้าทาย เพราะการจะทำให้วัดปลอดพนันได้ต้องเริ่มที่ผู้ที่อาศัยอยู่ในวัด คือ พระ และลูกศิษย์วัดเป็นสำคัญ ถ้าเจ้าของพื้นที่เป็นเสียเอง ก็คงจะทำให้วัดปลอดพนันไม่ได้ ชุมชนต้องช่วยกันดูแล จะปล่อยให้เป็นภาระของพระสงฆ์ดีๆ เพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ เราต้องเชื่อว่าหากหลายฝ่ายรวมพลังกัน สิ่งดีๆจะเกิดขึ้นได้”นายธนากรกล่าว