ดีเอสไอเข้าพบ “พระพยอม” หาข้อมูลผลกระทบกรณีโรงงานนำขยะสารเคมีทิ้งในไร่มันของชาวบ้านใกล้กับมูลนิธิวัดสวนแก้ว จนส่งกลิ่นเหม็นและสัตว์น้ำในคลองตายเกือบหมด ส่งผลต่อสุขภาพผู้คนในละแวกใกล้เคียง
วันนี้ (30 ม.ค.) ที่วัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้เดินทางเข้าพบพระพิศาลธรรมพาที (พยอม กัลยาโน) เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เพื่อสอบถามข้อมูลและผลกระทบเกี่ยวกับการที่มีโรงงานนำสารเคมีซึ่งน่าจะเป็นวัตถุอันตรายไปทิ้งไว้ในไร่มันใกล้กับมูลนิธิวัดสวนแก้ว สาขาปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี
โดยพระพิศาลธรรมพาที (พยอม กัลยาโน) กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อ พ.ศ. 2551 หลังจากเริ่มมีการนำขยะสารพิษมาทิ้งในไร่มันของชาวบ้านซึ่งอยู่ห่างจากวัดประมาณ 10 กม. โดยในขณะนั้นก็ไม่รู้ว่าเป็นขยะอะไร แต่เมื่อมีลมพัดมาก็จะได้กลิ่นเหม็นของสารเคมีอย่างรุนแรง ซึ่งเมื่อคนงานและเด็กนักเรียนที่ทำงานอยู่ในมูลนิธิสูดดมเข้าไปก็เริ่มมีอาการเจ็บคอ เหนื่อยง่าย ร่วมไปถึงปลาที่อาตมานำมาปล่อยไว้ในคลองโพธิ์ซึ่งเป็นคลองน้ำตามธรรมชาติที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์ในคลองดังกล่าวก็ลอยขึ้นมาตายเป็นแสนตัว จนทางวัดต้องนำรถบรรทุกมาขนนำไปฝั่งกลบถึง 2 คันรถ ซึ่งอาตมาก็ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วแต่ก็ยังมีรถบรรทุกของโรงงานวิ่งเข้าไปทิ้งอย่างต่อเนื่อง ซี่งพอมีฝนตกลงมาสารเคมีดังกล่าวก็จะซึมไหลผ่านมาตามร่องดินลงสู่น้ำในคลองโพธิ์อีก จนสัตว์น้ำในคลองดังกล่าวตายแทบจะไม่มีเหลืออีกแล้ว อยากให้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษเข้าทำการตรวจสอบขยะสารพิษดังกล่าวอย่างจริงจัง เพราะชาวบ้านและวัดได้รับความเดือดร้อนมาก
ด้าน พ.ต.ท.พงศ์อินทร์กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการเข้ามาสอบถามข้อมูลผลกระทบที่เกิดขึ้นกับโครงการมูลนิธิวัดสวนแก้วของหลวงพ่อ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการนำขยะสารเคมีมาทิ้งในไร่มันของเอกชน รวมถึงก่อนหน้านี้ได้ลงพื้นที่หาข้อมูลกับชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวจนค่อนข้างแน่ชัดว่าขยะสารพิษที่โรงงานนำมาทิ้งนั้นส่งผลกระทบโดยตรงกับชาวบ้าน จึงประสานไปยัง อบต.ลาดตะเคียนให้แจ้งความดำเนินคดีโรงงานที่นำขยะสารเคมีดังกล่าวมาทิ้งต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีรูปถ่ายและทะเบียนรถบรรทุกที่นำขยะสารเคมีมาทิ้ง และหากผลการตรวจสอบหน้าดินที่เก็บไปตรวจสอบหากพบว่าเป็นสารเคมีที่อยู่ในรายชื่อตามบัญชีอันตรายตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษก็จะสามารถเข้าไปดำเนินคดีได้ทันที
