xs
xsm
sm
md
lg

คนไทยเป็นโรคอ้วนอันดับ 5 ของเอเชียแปซิฟิก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบข่าวจากอินเทอร์เน็ต
สธ.ตั้งกองทุน 1 ล้านบาท ชวนคนอ้วนลดน้ำหนักแปลงเป็นเงินทำบุญ คาดคนร่วมโครงการ 10 ล้านคน ยอดลดน้ำหนักทั่วประเทศไม่น้อยกว่า 1 หมื่นตัน หลังพบคนไทยเป็นโรคอ้วน 17 ล้านคน ติดอันดับ 5 เอเชียแปซิฟิก แนะปรับพฤติกรรมการกิน และต้องออกกำลังกายสม่ำเสมอ เปิดรับสมัคร 1 ส.ค.นี้

วันนี้ (23 ก.ค.) นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังแถลงข่าว "โครงการเข้าพรรษาลดอ้วน สร้างบุญ" ว่า ในเทศกาลเข้าพรรษาวันที่ 3 สิงหาคม-30 ตุลาคม 2555 ซึ่งปีนี้เป็นวาระพิเศษ ตรงกับพุทธชยันตี 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า สธ.ได้จัดโครงการดังกล่าวขึ้นภายใต้แนวคิดได้บุญล้นใจ คนไทยลดอ้วน เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนไทยทำความดีเข้าพรรษา ด้วยการลดน้ำหนัก เพื่อการสร้างสุขภาพที่ดี โดยจะเริ่มดำเนินการพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2555 เป็นต้นไป
ซึ่งโครงการนี้ สธ. ได้ตั้งกองทุนไว้อยู่แล้วจำนวน 1 ล้านบาท และจะนำเงินไปทำบุญกับมูลนิธิหรือวัดต่างๆ ตามความประสงค์ของผู้เข้าร่วมโครงการ โดยให้ผู้เข้าร่วมโครงการฯ จะต้องลดน้ำหนักให้ได้เกณฑ์มาตรฐาน คือ เดือนละไม่เกิน 4 กิโลกรัม ซึ่งจะมีการชั่งมีน้ำหนักและวัดรอบเอวก่อนและหลังร่วมโครงการ โดยจะต้องไปรายงานตัวที่สถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ภายใน 15 วัน เพื่อประเมินจำนวนน้ำหนักตัวที่ลดลง พร้อมกับแสดงเจตนารมย์ ว่าจะนำเงินจากการบริจาคน้ำหนักไปทำบุญกับมูลนิธิ หรือวัดตามแต่ศรัทธา โดยตั้งเป้าจะลดน้ำหนักส่วนเกินทั้งประเทศได้ไม่น้อยกว่า 1 หมื่นตัน คาดว่าจะมีประชาชนร่วมโครงการประมาณ 10 ล้านคน

“ผลสำรวจสุขภาพล่าสุดมีคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปเป็นโรคอ้วน ติดอันดับ 5 ของเอเชียแปซิฟิก โดยมีคนอ้วนมากถึง 17 ล้านคนทั่วประเทศ และยังมีแนวโน้มเป็นโรคอ้วนเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 4 ล้านคนต่อปี ทำให้รัฐบาลต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล มากกว่าปีละ 1 แสนล้านบาท อีกทั้งคนที่เป็นโรคอ้วนจะมีความเสี่ยงที่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง และโรคข้อกระดูกเสื่อมสูงกว่าคนปกติ และยังส่งผลกระทบด้านอารมณ์อีกด้วย”นพ.ไพจิตร์กล่าว

นพ.โสภณ เมฆธน รองปลัด สธ.กล่าวว่า โรคอ้วนขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการบริโภค ดังนั้น วิธีการจะลดโรคอ้วนต้องขึ้นอยู่กับการมีแรงจูงใจ ด้วยเหตุนี้จึงเกิดโครงการดังกล่าวขึ้นโดยเน้นการสร้างความรู้ให้แก่ประชาชนได้ใช้หลักการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เรียกว่า 3 อ. 2 ส. คือ อาหาร อารมณ์ ออกกำลังกาย

ส่วน 2 ส. คือ ไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ ด้วยวิธีการง่ายๆ เพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติ และพฤติการบริโภคอาหารอย่างถูกต้อง พร้อมทั้งออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการผลักดันให้เป็นกิจกรรมที่มีธรรมเนียมปฏิบัติในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาทุกปี ซึ่งจะเป็นผลดีต่อประชาชนไทยที่จะลดการเสี่ยงจากการเป็นโรคอ้วนได้ เพราะเป็นกิจกรรมบุญที่สร้างแรงบันดาลใจได้สูงสุด สำหรับช่องทางร่วมกิจกรรมสามารถสมัครได้ด้วยตนเองภายในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ โดยมี 3 ช่องทาง คือ 1. สมัครด้วยตนเองผ่านเครือข่ายของ สธ. เช่น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) สถานีอนามัย เป็นต้น 2.ผ่านเว็บไซต์ของโครงการ www.ลดอ้วนสร้างบุญ.com 3.ผ่านระบบไปรษณีย์ส่งมาที่ สธ. หรือโทร.08-3701-2838

“โครงการฯ จะเปิดโอกาสให้ประชาชนที่เข้าร่วมสามารถกำหนดได้ว่า น้ำหนักส่วนเกินที่ลดลงนั้นจะแปลงไปเป็นเงินกองทุน เพื่อมอบให้กับโครงการบุญใดก็ได้ เช่น โครงการมูลนิธิวัดพระราม 9 โดยพระธรรมบัณฑิต (อภิพล อภิพโล) โครงการมูลนิธิสวนแก้ว โดยพระราชธรรมนิเทศ (พระพยอม กัลยาโณ) เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีคนเข้าร่วมโครงการประมาณ 10 ล้านคน และลดน้ำหนักส่วนเกินของคนอ้วนรวมกันได้ไม่น้อยกว่าหมื่นตัน” นพ.โสภณกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น