ศูนย์ข่าวขอนแก่น - คนงานอีสานโร่พึ่งดีเอสไอ ถูกบริษัทนายหน้าหลอกไปเก็บผลไม้ที่สวีเดน อ้างจะได้รับค่าจ้างเดือนละกว่า 92,000 บาทในสัญญา 3 เดือน แต่สุดท้ายกลับไม่ได้รับแม้แต่บาทเดียว ดีเอสไอเผยผู้เสียหายกว่า 500 คน มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 100 ล้านบาท ระบุรับเรื่องร้องเรียนไว้ พร้อมเร่งหาหลักฐานเพิ่มเติม หวังบรรจุเป็นคดีพิเศษข้อหาฉ้อโกงประชาชน
วันนี้ (15ต.ค. 56) ที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จังหวัดขอนแก่น ตัวแทนกลุ่มคนงานในอำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่นประมาณ 40 คน เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อดีเอสไอ กรณีที่กลุ่มแรงงานถูกหลอกไปทำงานเก็บผลไม้ป่า (ลูกเบอร์รี) ที่ประเทศสวีเดน รวมประมาณ 500 คน ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม 56 จนถึงขณะนี้กลุ่มแรงงานก็ยังไม่ได้รับค่าจ้างแม้แต่บาทเดียว
นายวินัย แก้วเก็บคำ แกนนำแรงงานไทยเก็บผลไม้ที่ประเทศสวีเดน เปิดเผยว่า กลุ่มแรงงานในจังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม ชัยภูมิ อุดรธานี ได้ถูกนายหน้าบริษัท เอ็ม ฟีนิกส์ เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 401/9 ต.ช่องสามหมอ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ชักชวนให้ไปทำงานเก็บผลไม้ที่ประเทศสวีเดน กำหนดสัญญา 3 เดือนตั้งแต่กรกฎาคม-ตุลาคม 56 ได้รับค่าจ้างเดือนละ 18,975 โครนสวีเดน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 92,400 บาท
บริษัท เอ็มฟินิกส์เอนเตอร์ไพรส์ ได้เรียกเก็บเงินค่าดำเนินการ 75,000 บาท ซึ่งแรงงานส่วนใหญ่ต้องไปกู้เงินมาเป็นค่าใช้จ่าย บางรายต้องเอาโฉนดที่ดินไปจำนอง แต่เมื่อเดินทางไปทำงานที่สวีเดน ตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคมแล้วนั้น กลับไม่ได้รับเงินค่าจ้างตามที่ตกลงไว้ บริษัทฯ ไม่โอนเงินค่าจ้างเข้าบัญชีแม้แต่บาทเดียว เมื่อสอบถามไปมากบริษัทเอ็มฟินิกส์ฯ ได้แจ้งว่าจะจ่ายเงินตอบแทนให้คนงาน เป็นค่าขายผลไม้ลูกเบอร์รีให้กับคนงานโดยตรง
ทั้งนี้ลูกเบอร์รี่มีราคาขายที่กิโลกรัมละ 10 โครนสวีเดน หรือประมาณ 47 บาท/กิโลกรัม แต่ละคนจะเก็บผลไม้ได้ต่อวันไม่ต่ำกว่า 40 กิโลกรัม แต่แล้วก็ไม่มีเงินค่าขายผลไม้โอนมาให้กับคนงานทั้งหมด ซึ่งการไปทำงานที่สวีเดนนั้น บริษัทได้หักค่าใช้จ่ายประกอบด้วยค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่ารถเดินทางไปไร่ผลไม้ รวมเป็นเงินวันละ 1,300 บาท รวมค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นประมาณ 175,000 บาท/คน ที่ต้องจ่ายให้กับบริษัทนายหน้ารายนี้
ที่ผ่านมามีเพื่อนคนงาน คือ นายบัวลา เหล่าพรม เกิดความเครียด เพราะเสียค่าใช้จ่ายให้กับบริษัทนายหน้าแห่งนี้ไปแล้ว แต่ไม่มีเงินโอนเข้าบัญชี ตัดสินใจผูกคอตายในห้องน้ำที่พักคนงาน จนเสียชีวิตไปแล้ว เป็นเหตุให้เพื่อนคนงานเก็บผลไม้ต้องชุมนุมประท้วงกับหน่วยงานรัฐที่ประเทศสวีเดน และสถานทูตไทยในประเทศสวีเดน เมื่อประมาณกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา และคนงานได้ตัดสินใจขึ้นเครื่องบินกลับเมืองไทย และมาขอความเป็นธรรมกับดีเอสไอวันนี้
อย่างไรก็ตาม ในวันประชุมคนงานก่อนที่จะเดินทางไปทำงานสวีเดิน ที่โรงแรมสยามริเวอร์ รีสอร์ท จังหวัดชัยภูมิ ในขั้นตอนการเซ็นสัญญาในเอกสารส่งคนงานนั้น คนงานกว่า 500 คนได้ถูกเจ้าหน้าที่บริษัทเร่งรัดให้เซ็นเอกสารในลักษณะเร่งด่วน ทำให้คนงานไม่ได้อ่านข้อความในเอกสาร เกรงว่าจะถูกบริษัทเอ็มฟินิกส์ เอนเตอร์ไพรส์ หลอกลวงคนงานหรือไม่
ดีเอสไอชี้ความเสียหายกว่าร้อยล้านเตรียมรับเป็นคดีพิเศษ
ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผู้บัญชาการสำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาค สำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า แรงงานถูกหลอกไปทำงานเก็บผลไม้ที่ประเทศสวีเดน ได้ร้องเรียนกับอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษมาแล้ว ซึ่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเล็งเห็นเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นการหลอกลวงคนหางานกระทั่งมีคนงานต้องผูกคอตายด้วยเรื่องนี้ และคนงานส่วนใหญ่ต้องไปพึ่งความช่วยเหลือกับนายอำเภอที่ประเทศสวีเดน และประสานสถานทูตไทยในสวีเดนจัดส่งคนงานไทยกลับประเทศ
พ.ต.ท.กรวัชร์กล่าวว่า ชีวิตความเป็นอยู่คนงานไทยในประเทศสวีเดนถือว่าลำบากมาก ซ้ำคนงานกลับมาถูกหลอกไม่ได้รับค่าจ้างเก็บผลไม้ตามที่บริษัทระบุไว้ ซึ่งคนงานส่วนใหญ่เป็นคนภาคอีสานอยู่ในจังหวัดขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม อุดรธานี ก่อนเดินทางไป ต้องไปจำนองหลักทรัพย์ที่ดิน กู้เงินนอกระบบ เป็นค่าใช้จ่ายเดินทาง ซึ่งมีคนงานที่ได้รับความเดือดร้อนกว่า 500 คน รวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 100 ล้านบาท
ทั้งนี้ ดีเอสไอได้รับเรื่องร้องเรียนและจะดำเนินรวบรวมหลักฐานพร้อมทั้งสอบสวนแรงงานทั้งหมด ว่าเข้าข่ายความผิดในคดีพิเศษหรือไม่ ซึ่งจะต้องลงพื้นที่รวบรวมหลักฐานอีกครั้ง และจะเร่งดำเนินการเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด เพื่อใช้เป็นหลักฐานเสนอเป็นคดีพิเศษ ในข้อหาคดีฉ้อโกงประชาชน ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องถูกสอบสวน ทั้งนายหน้าที่ชักชวนคนงาน กรรมการบริษัท เบื้องต้นยังไม่มีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง