xs
xsm
sm
md
lg

ทัพเรือ-มทภ.1 ช่วยน้ำท่วมอมตะนคร จับตานิคมฯ-สุวรรณภูมิ มั่นใจเรือดันน้ำช่วยได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รองเสนาธิการทหารเรือตรวจระดับน้ำคลองลาดกระบัง-บางนา มั่นใจเรือผลักดันน้ำช่วยได้ เผยติดตั้งแล้ว 67 ลำ พร้อมส่งเรือผลักดันน้ำเพิ่มอีก 2 ลำช่วยอมตะนคร สั่งจับตาระดับน้ำในนิคมอุตสาหกรรรม สนามบินสุวรรณภูมิ ลุ้นพายุจากฟิลิปปินส์อีกลูกสัปดาห์หน้า ด้าน มทภ.1 ลงพื้นที่อมตะนคร ส่ง 30 ทหาร เฝ้าแนวป้องกันน้ำ ทัพฟ้าเตรียมส่ง ฮ. ช่วยน้ำท่วมสระแก้ว สั่งทุกกองบินส่งทหาร-รถช่วยประชาชน

วันนี้ (9 ต.ค.) พล.ร.ท.ไกรวุฒิ วัฒนธรรม รองเสนาธิการทหารเรือ ในฐานะรองเสนาธิการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ เป็นหัวหน้าคณะตรวจเยี่ยมและมอบของบำรุงขวัญกำลังพลประจำเครื่องผลักดันน้ำตามจุดต่างๆ ในพื้นที่เขตลาดกระบัง และเขตบางนา-ตราด รวม 7 จุด ประกอบด้วย คลองสามประเวศ บริเวณวัดลาดกระบังที่ 3 คลองสี่ประเวศ บริเวณวัดปลูกศรัทธา ถนนฉลองกรุง 1 คลองปลาทิว บริเวณวัดสุทธาโภชน์ ถนนฉลองกรุง 8 บริเวณลอดใต้ ถนนบางนา-ตราด 5.คลองจระเข้ใหญ่ บริเวณใต้ ถนนบางนา-ตราด คลองบางเสาธง บริเวณใต้ ถนนบางนา-ตราด และคลองบางโฉลง บริเวณหน้าวัดบางโฉลงใน ภายหลังกระทรวงกลาโหมมอบให้กองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัย เพื่อติดตามสถานการณ์ และช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติและสาธารณภัยในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพเรือ หรือพื้นที่อื่นๆ โดยมี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เป็นผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ

พล.ร.ท.ไกรวุฒิ กล่าวว่า จากกรณีที่รัฐบาลมอบหมายให้กองทัพเรือวางเรือผลักดันน้ำได้มีการพิจารณารอบคอบแล้วจากรัฐบาล ซึ่งเราเชื่อมั่นว่า จะผลักดันน้ำได้เต็มขีดความสามารถ ส่วนจะท่วมหรือไม่นั้น เรามีคณะกรรมการดูแลในการบริหารจัดการน้ำอยู่แล้ว ซึ่งกองทัพเรือทำตามที่รัฐบาลมอบหมายมา ทั้งนี้จากการที่ตนได้เดินทางไปดูระดับน้ำวันนี้ ตนยังเชื่อมั่นว่า เราสามารถผลักดันน้ำได้ หากท่วมก็คงท่วมไม่นาน ซึ่งตามที่สำนักนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (กบอ.) ร้องขอให้ติดตั้งเรือผลักดันน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ฝั่งตะวันตก จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดชลบุรี ให้ลงสู่ทะเลโดยเร็ว โดยขณะนี้เราได้ติดตั้งเรือผลักดันน้ำในพื้นที่ รวมจำนวน 67 ลำ โดยได้จัดกำลังพลประจำตามจุดทั้งหมดจำนวน 430 นาย ซึ่งเราจะเดินเครื่องตลอด 24 ชั่วโมง โดยแต่ละเครื่องสามารถผลักดันน้ำได้ จำนวน 100,000 ลูกบาศก์เมตรต่อเครื่องต่อวัน คิดว่า จะทำให้ระดับน้ำทรงตัวอยู่ได้ ไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ทั้งนี้เรายังมีเครื่องผลักดันน้ำพร้อมจะให้การช่วยเหลืออีก 20 ลำ หากพื้นที่ไหนมีการร้องขอมา เราพร้อมนำเครื่องมือและกำลังพลไปช่วยเหลือตามจุดต่างๆได้ทันที

น.อ.รัชฐ์ชัย จันทร์ส่งเสริม หัวหน้าฝ่ายกำลังพล หน่วยเฉพาะกิจผลักดันน้ำกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันนี้ (9 ต.ค.) กองทัพเรือได้รับการร้องให้จัดเรือผลักดันน้ำเพิ่มเติมอีก 2 ลำจากเดิมที่มี 6 ลำเพื่อช่วยผลักดันน้ำบริเวณคลองขุนวิเศษ และรอบบริเวณพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร เบื้องต้น กบอ.ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกองทัพเรือ เฝ้าติดตามน้ำสถานการณ์อย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะด้านฝั่งตะวันออกที่มีนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง รวมถึงบริเวณรอบสนามบินสุวรรณภูมิ ขณะนี้ได้สนับสนุนไปแล้ว 67 เครื่อง จากที่ กองทัพเรือมีประจำการอยู่ 100 เครื่อง ซึ่งมีเครื่องผลักดันน้ำของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา(นทพ.) ร่วมสนับสนุนมาช่วยเหลือเพิ่มเติมด้วย อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำที่ได้มีการผลักดันออกไปเป็นไปตามเป้าหมาย เชื่อว่าระดับน้ำฝั่งตะวันออกจะลดลง แต่ต้องดูประมาณน้ำฝนต่อจากนี้ว่าจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะพายุลูกใหม่มาทางฟิลิปปินส์ในสัปดาห์หน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 1 ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่บริเวณ นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร พร้อมทั้งได้สั่งการให้หน่วยในเขตความรับผิดชอบได้แก่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 14 (มทบ.14) และ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) โดยกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) จ.ชลบุรี เตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหากได้รับการร้องขอ ในเบื้องต้นทาง มทบ.14 ได้ส่งกำลังพลเฝ้าตามแนวป้องกันน้ำแล้ว 30 นาย พร้อมจัดยานพาหนะรับ-ส่งเจ้าหน้าที่ และพนักงานในนิคมแล้วจำนวน 2 คัน ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้กำชับให้หน่วยที่รับผิดชอบในพื้นที่ทั้ง 2 หน่วยคือ มทบ.14 และ ร.21 รอ.ติดตามสถานการ์และเข้าช่วยเหลือประชาชนทันที

ด้าน พล.อ.ท.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ยังอยู่ในภาวะวิกฤต ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศยังคงดำเนินการช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบิน 1 จ.นครราชสีมา จัดเจ้าหน้าที่พร้อมรถยกสูงออกช่วยเหลือประชาชนร่วมกับหน่วยแพทย์จากโรงพยาบาลจังหวัดชัยภูมิ เพื่อทำการรักษาและแจกจ่ายยาให้ประชาชนที่ประสบภัยในจ.ชัยภูมิ นอกจากนั้นได้จัดกำลังพลจำนวน 30 นาย รถบรรทุกขนาดใหญ่ จำนวน 3 คัน เรือท้องแบนและเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์ จำนวน 4 ลำ ออกแจกจ่ายถุงยังชีพให้ประชาชนที่อ.จัตุรัสและอ.เมือง จ.ชัยภูมิ ส่วนศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบิน 5 จ.ประจวบคีรีขันธ์ จัดเจ้าหน้าที่พร้อมทหารกองประจำการ 40 นายช่วยเหลือสูบน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จนสถานการณ์คลี่คลาย

พล.อ.ท.มณฑล กล่าวว่า ส่วนศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี จัดกำลังทหารพร้อมรถยนต์บรรทุก เรือท้องแบน และถุงยังชีพ ออกช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อ.เมือง อ.นาเยีย อ.นาจะหลวย อ.พิบูลมังสาหาร และอ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี และอ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ขณะที่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบิน 46 จ.พิษณุโลกจัดกำลังพล จำนวน 30 นาย พร้อมรถบรรทุกขนาดเล็กและขนาดใหญ่รวม 2 คัน ออกช่วยเหลือเกี่ยวข้าวในนาของประชาชนที่บริเวณน้ำท่วมในหมู่ที่ 4 ต.ดอนทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก สำหรับการดำเนินการของศูนย์บรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ส่วนกลางดอนเมือง ได้จัดเครื่องบินซี-130 จำนวน 1 เครื่อง ลำเลียงถุงยังชีพไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่ จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา และในวันที่ 10 ต.ค.นี้ ได้วางแผนจัดเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 2 เครื่อง บินสำรวจพื้นที่ประสบภัยและมอบถุงยังชีพในพื้นที่ที่กำลังภาคพื้นที่ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ในพื้นที่อ.วัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว รวมทั้งเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็วให้การสนับสนุนถุงยังชีพและประสานกับผู้นำชุมชนเพื่อเตรียมขนย้ายสิ่งของจากพื้นที่ประสบอุทกภัยที่ต.คลองควาย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี


กำลังโหลดความคิดเห็น