เครือข่ายชุมชนลุ่มน้ำโขงไทย-ลาว-เขมรร่วมจัดพิธีสืบชะตาแม่น้ำ

หนองคาย-เครือข่ายสภาองค์กรชุมชนลุ่มน้ำโขง 7 จังหวัดภาคอีสาน(คสข.) จัดพิธีสืบชะตาแม่น้ำโขงที่จังหวัดหนองคาย ซึ่งมีตัวแทนเครือข่ายจาก 7 จังหวัดตลอดจนตัวแทนเครือข่ายจากประเทศลาว เวียดนาม และกัมพูชาเข้าร่วม

วันที่(11 ต.ค.)ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านเวียงคุก ต.เวียงคุก อ.เมือง จ.หนองคาย เครือข่ายสภาองค์กรชุมชนลุ่มน้ำโขง 7 จังหวัดภาคอีสาน(คสข.) ได้ร่วมกับเครือข่ายองค์กร 8 จังหวัด รวมทั้งตัวแทนเครือข่ายจาก ประเทศ เวียดนาม และกัมพูชา โดยเริ่มจากพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ พิธีบายศรีสู่ขวัญแม่น้ำโขง เทพ 2 ฝั่งโขงไทย-ลาว รำดาบบูชาแม่น้ำโขง

การถวายเครื่องคาวหวาน 9 อย่าง และศาลเพียงตาสืบชะตาอายุแม่น้ำโขง ปล่อยกระทงบูชากลางแม่น้ำโขง ปล่อยปลาบึก 2 ตัวๆละ 5 กก. และพันธุ์ปลาแม่น้ำโขงอีก 5,000 ตัว ซึ่งมีชาวบ้านใกล้เคียงเข้าร่วมพิธีจำนวนมาก

นางอ้อมบุญ ทิพย์สุนา เครือข่ายสภาองค์กรชุมชนลุ่มน้ำโขง 7 จังหวัดภาคอีสาน(คสข.) กล่าวว่า การประกอบพิธีสืบชะตาแม่น้ำโขง เป็นการบูชาและขอขมาแม่น้ำโขงที่หล่อเลี้ยงชีวิตประชาชนสองฟากฝั่งให้มีความอุดมสมบูรณ์และร่มเย็นเป็นสุขเสมอมา เป็นการปกป้องแม่น้ำโขงให้รอดพ้นจากการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำโขง ให้ไหลได้อย่างอิสระรอดพ้นจากการสร้างเขื่อน

สำหรับแนวทางการต่อสู้และคัดค้านการสร้างเขื่อนในลำแม่น้ำโขงนั้น แม้ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างเขื่อนไชยะบุรีของลาวที่สำเร็จไปแล้วร้อยละ 15 และลาวกำลังเตรียมการก่อสร้างเขื่อนสะโฮง ที่สี่พันดอน ในแดนระหว่างลาว-กัมพูชาอีกแห่งหนึ่งก็ตาม

ทางเครือข่ายสภาชุมชนลุ่มแม่น้ำโขง 7 จังหวัดภาคอีสานและองค์กรที่เกี่ยวข้องทั้ง 3 ประเทศ ได้ร่วมกันศึกษาวิจัยถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากมีการก่อสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำโขง พร้อมทั้งได้นำผลวิจัยเสนอต่อทุกหน่วยงาน ทุกองค์กร และทุกประเทศที่เกี่ยวข้องให้ได้รับข้อมูลข้อเท็จจริงที่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำโขง
และเชื่อว่าผลการวิจัยของเครือข่ายฯจะเป็นข้อมูลสำคัญที่ระดับผู้บริหารของแต่ละประเทศจะนำไปพิจารณาก่อนจะตัดสินใจในการก่อสร้างเขื่อนแต่ละเขื่อนต่อไป.