ยิงหนุ่มกาฬสินธุ์ดับหลังกลับจากคอนเสิร์ตเปิดตัวไหมไทย

กาฬสินธุ์ - ยิงหนุ่มกาฬสินธุ์ดับกลางถนน หลังกลับจากคอนเสิร์ตเปิดตัวไหมไทย หัวใจศิลป์ ที่บ้านเกิด คาดเป็นฝีมือกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่นที่เกิดเขม่นกันในเวทีคอนเสิร์ต

เมื่อเวลา 01.30 น.วันนี้ (10 ต.ค.) พ.ต.ท.เพิ่มพูน ทองคำ พนักงานสอบสวน สภ.กมลไสย จ.กาฬสินธุ์ รับแจ้งเหตุยิงกันที่บริเวณถนนทางเข้าบ้านหัวแฮด ต.ธัญญา อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ตเปิดตัวของนักร้องลูกทุ่งหมอลำ ไหมไทย หัวใจศิลป์ โดยมีผู้เสียชีวิต 1 ราย

หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.รณภพ หริ่มสืบ ผกก.สภ.กมลาไสย พ.ต.ท.สมทรง พละเดช รองผกก.(สส.)สภ.กมลาไสย เจ้าหน้าที่กู้ภัย และแพทย์เวรโรงพยาบาลกมลาไสย

โดยที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนทางเข้าบ้านหัวแฮด ซึ่งเป็นวันเล่นคอนเสิร์ตเปิดตัวของนักร้องลูกทุ่งหมอลำ ไหมไทย หัวใจศิลป์ พบศพชายอายุประมาณ 30-35 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่แขนขวาทะลุถูกรานมด้านขวา เสียชีวิตคาที่ สภาพสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงสีเขียวลายพรางทหาร

ทราบชื่อต่อมาคือนายมนตรี คำวิโส อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 ม.1 ต.ธัญญา อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ใกล้กันพบรถจักยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่าสปาร์คนาโน สีขาว-ชมพู ไม่ติดป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นของผู้ตายจอดล้มอยู่

จากการสอบสวนเพื่อนผู้ตายที่มาด้วยกัน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายมนตรี ได้มาดูการแสดงคอนเสิร์ตเปิดตัววงไหมไทย หัวใจศิลป์ นักร้องลูกทุ่งหมอลำ ซึ่งจัดแสดงขึ้นที่บ้านหัวแฮด ซึ่งเป็นบ้านเกิดของไหมไทย พร้อมเพื่อน 3 คน จากนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์เพื่อที่จะกลับบ้าน

จนมาถึงที่เกิดเหตุมีวัยรุ่น 2 คน ขี่รถจักยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่าฟีโน่ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สวมหมวกกันน๊อกขี่ตามมา แล้วเรียกให้นายมนตรีจอดรถ จากนั้นวัยรุ่นที่นั่งซ้อนหลังชักอาวุธปืนออกมาแล้วยิงใส่นายมนตรี 1 นัด จนล้มลงและเสียชีวิตดังกล่าว

เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุการยิงครั้งนี้อาจจะเกิดการเขม่นกันในเวทีคอนเสิร์ต หรือหึงหวง ซึ่งน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่เจ้าถิ่น

ด้าน พล.ต.ต.มนธน ทิพจันทร์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ สั่งการให้ พ.ต.อ.รณภพ หริ่มสืบ ผกก.สภ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ นำกำลังชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.กมลาไสยลงพื้นที่ติดตามตัวกลุ่มคนร้ายอย่างเร่งด่วน คาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ที่รู้จักกับผู้ตายและยังหลบในอยู่ในพื้นที่

แต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืน ซึ่งน่าจะสามารถจับตัวได้เร็วๆ นี้