xs
xsm
sm
md
lg

มรดกนักร้องไร้รางวัล "สายัณห์ สัญญา"?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยังคงกลายเป็นประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจอยู่ไม่น้อยสำหรับข่าวคราวการเสียชีวิตของอดีตนักร้องลูกทุ่งคนดังขวัญใจคนยาก "สายัณห์ สัญญา" นับตั้งแต่วันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา

โดยเฉพาะในเรื่องของเงินๆ ทองๆ


ช่วงขาขึ้นของชีวิตการเป็นนักร้องที่กินระยะเวลานานกว่า 30 ปี แม้จะสามารถหาเงินจากการขายเสียงร้องเพลงได้อย่างเป็นกอบเป็นกำถึงขั้นที่ว่ากันว่ามีเงินมีทองถึงหลักร้อยล้านบาท แต่ก่อนเสียชีวิตนั้นน้อยคนนักที่จะทราบว่า "สายัณห์ สัญญา" แทบจะไม่มีทรัพย์สินอะไรติดตัวแม้แต่นิดเดียว

โดยเรื่องนี้เป็นทางด้านของ "มานิต อังกินันท์" ผู้จัดการส่วนตัวของเขาที่ได้ออกมาเปิดเผยว่าชีวิตบั้นปลายนักร้องลูกทุ่งชื่อดังได้เช่าห้องเล็กๆ ย่านปิ่นเกล้าเดือนละ 4 พันกว่าบาทเป็นที่อยู่อาศัย สมบัติอื่นๆ แทบจะไม่มี มีเพียงพระเครื่องชุดหนึ่งที่จะมอบให้กับลูกชาย รวมถึงเงินเก็บบางส่วนที่เจ้าตัวตั้งใจจะมอบให้กับภรรยาและลูกๆ ถึงขนาดร้องขอไม่อยากให้มีการนำเงินส่วนนี้มารักษาอาการป่วยของตนเองแต่อย่างใด

ตรงนี้เองที่กลายเป็นที่มาของประเด็นเรื่อง "เงินบริจาค" ต่างๆ นานา ที่นับวันดูเหมือนจะวุ่นวายขึ้นไปทุกที

เริ่มกันตั้งแต่การจัดคอนเสิร์ตในชื่อต่างๆ ทั้ง “วันอำลา ขวัญใจคนเดิม สายัณห์ สัญญา” ครั้งแรกในวันที่ 27 ก.ค. ลานแสดงคอนเสิร์ตเวทีไท พระประแดงอาเขต, ครั้งที่ 2 ในวันที่ 16 ส.ค. ที่สุพรรณ ซึ่งเจ้าตัวไปร่วมงานไม่ไหว รวมทั้งคอนเสิร์ต “รวมพลคนรักพี่เป้า สายัณห์ สัญญา” ในวันเสาร์ที่ 31 ส.ค. และอาทิตย์ที่ 1 กันยายนที่ผ่านมาที่นักร้องคนดังเกิดอาการน็อคขึ้นมาหลังไปถึงงานได้เพียง 20 นาที รวมถึงคอนเสิร์ตที่กำหนดจะมีอีกครั้งในวันที่ 14 กันยายนทว่านักร้องคนดังได้จากไปเสียก่อน เหล่านี้แง่หนึ่งอาจจะมองได้ว่าเป็นเจตนาดีของผู้จัดที่ต้องการแสดงถึงความรักและเพื่อหาเงินเป็นค่ารักษา เป็นทุนให้กับครอบครัว แต่ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปในด้านลบไม่น้อยเช่นกัน

ในการสวดศพวันแรก ณ วัดไร่ขิงนั้น ปรากฏว่านอกจากทางครอบครัวจะได้นำของที่ระลึกมาจำหน่ายในงาน อาทิเสื้อยืด (ตัวละ 200 บาท) หนังสือประวัติ (เล่มละ 50 บาท) วีซีดีการแสดงสดในปี 2528 (แผ่นละ 300 บาท) เพื่อหาเงินเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างที่นักร้องคนดังเข้ารักษาอาการจำนวนกว่า 194,000 บาท(โรงพยาบาลลดให้ 50%) รวมถึงเป็นทุนในการซื้อบ้านให้กับภรรยาและลูกๆ ตามที่เจ้าตัวต้องการแล้ว ในบริเวณวัดยังได้มีบุคคลนำของที่ระลึกต่างๆ มาวางขายมากมาย โดยบางส่วนก็เป็นการค้าขายตามปกติ ขณะที่มีไม่น้อยที่โฆษณาเชิญชวนทำนองว่าเงินที่ได้นั้นจะเป็นการทำบุญให้กับนักร้องผู้ล่วงลับ

รวมไปถึงเรื่องของกล่องบริจาคมากมายหลายกล่องไม่นับรวมไปถึงของทางวัดไร่ขิงเองอีกจำนวน 8 ใบที่เขียนระบุไว้อย่างชัดเจนว่า "ขอเชิญร่วมบริจาค การบำเพ็ญกุศล สวดพระอภิธรรมศพ นายพรสายัณห์ มีโชคดีเสมอ (สายัณห์ สัญญา) นักร้องลูกทุ่งแหบมหาเสน่ห์ ณ วัดไร่ขิงพระอารามหลวง อ.สามพราน จ.นครปฐม" ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องกล่องบริจาคเหล่านี้ทางครอบครัวเองได้ออกมายืนยันปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นแต่อย่างใด

สารพัดเงินบริจาคจากหลากหลายทาง และสารพันปัญหาที่อาจจะนำมาซึ่งข้อครหาต่างๆ ที่จะยังคงมีต่อไปหลังพิธีศพซึ่งแต่เดิมกำหนดจะมีการฌาปนกิจในวันที่ 5 ตุลาคมก่อนถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 19 ธันวาคมแทน เหล่านี้นี่เองที่ทำให้ทางครอบครัวของสายัณห์ต้องแต่งตั้งทนายความขึ้นมาเพื่อดูแลผลประโยชน์ต่างๆ

ทั้งๆ ก่อนที่นักร้องคนดังจะเสียชีวิตนั้นเขาแทบจะไม่มีมรดกอะไรทิ้งไว้เลย

หากย้อนกลับไปในอดีตในวงการเพลงลุกทุ่งเป็นที่รู้ดีว่าหากใครจะจ้าง สายัณห์ สัญญา ร้องเพลง - แสดงคอนเสิร์ต จะต้องจ้างเป็นเงินสดเท่านั้น โดยอัตราถัวเฉลี่ยในการจ้างก็มีตั้งแต่เพลงละ 1 หมื่นบาทไปจนถึง 2 หมื่นบาทเมื่อชื่อเสียงของเขาโด่งดัง ร้องเสร็จ อัดเสร็จ คอนเสิร์ตจบก็จบกันไป

ด้วยการการร้องแบบขายขาดเพลงต่อเพลง ร้อง 10 เพลงก็ขนเงินสดๆ กลับไปแสนนึงเฉกเช่นนักร้องส่วนใหญ่ในสมัยก่อน ด้วยเหตุนี้แม้เพลงจะดัง แผ่นเสียงจะมียอดขายที่สูงเท่าไรแต่คนร้องก็หาได้ไปเกี่ยวข้องไม่ อันเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ว่าทำไมสินทรัพย์ที่มีอยู่ถึงค่อยๆ ร่อยหรอลงไปในช่วงหลังๆ ที่เจ้าตัวไม่ค่อยจะมีงาน

แต่ที่ทำให้เงินทองที่หาเก็บมาหมดไปจริงๆ ก็คงจะเป็นช่วงที่เจ้าตัวได้หันมาเปิดค่ายเพลงที่มีชื่อว่า "เอสวาย" ผลิตงานเพลงออกมา 4 ชุดด้วยกัน คือ อัลบั้มแสดงสดปี 28, อัลบั้มเพื่อลูก, อัลบั้มมนต์รักไอ.ซี.ยู. และ อัลบั้มไถนาดีกว่าไถคน ซึ่งเจ้าตัวหมายหมั้นปั้นมือเป็นอย่างมากเพราะลงมือทำทุกอย่างด้วยตนเอง แต่ทว่างานที่ออกมากลับไม่ประสบผลสำเร็จเอาเสียเลย

ว่ากันว่าจากการตั้งค่ายเพลงเอสวายนี้เองที่ทำให้เขาเสียเงินลงทุนไปร่วม 10 ล้านบาทเลยทีเดียว

นอกจากจะไม่มีส่วนร่วมกับยอดขายจากงานเพลงแล้ว การขายขาดยังทำให้ สายัณห์ สัญญา ไม่สามารถไปมีลิขสิทธิ์ใดๆ ในเพลงที่ตนเองร้องไว้อีกด้วย

โดยลิขสิทธิ์เพลงของสายัณห์ส่วนใหญ่นั้นต้องบอกว่าต่างก็กระจายอยู่กับค่ายเพลงลูกทุ่งของบ้านเราเกือบจะทุกค่าย แต่ที่เป็นเจ้าของสิทธิ์อัลบั้มดีๆ - เพลงฮิตๆ จริงๆ ก็คือห้างกรุงไทยออดิโอ จำกัด ของ "เฮียจุ่น" ประเสริฐ หวังสันติพร รวมถึง "ห้างเสียงสยามแผ่นเสียง" ที่มีวัฒนา อัศวฤกษ์นันท์ นั่งบริหารนั่นเอง

ส่วนงานเพลงที่ทางครอบครัวอดีตนักร้องคนดังจะได้ลิขสิทธิ์ในการดูแลไปก็คือ 4 อัลบั้มซึ่งไม่ได้รับความนิยมที่ถูกผลิตในชื่อของค่ายเอสวายซึ่งก็คงต้องดูกันว่าการจากไปของเจ้าตัวนั้นจะส่งผลให้งานเพลงเหล่านี้ได้รับความนิยมขึ้นมาเหมือนกับผลงานอื่นๆ ในตอนนี้ที่ได้กลับมาเป็นที่ต้องการของแฟนเพลงอีกครั้งหลังจากที่เจ้าตัวได้เสียชีวิตลงไปหรือไม่?

ทั้งนี้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของลิขสิทธิ์งานเพลงที่ได้กลายเป็นข่าวออกมาแล้วก็คือในกรณีของ "เสก โลโซ" ซึ่งได้ออกมาเผยว่าเตรียมจะนำเอาเพลงฮิตของสายัณห์จำนวน 10 เพลง อาทิ เสียความรู้สึก, ไก่จ๋า, ล้นเกล้าเผ่าไทย, เกลียดห้องเบอร์ 5 ฯ มาร้องใหม่ทำเป็นอัลบั้มออกขายรวมถึงให้ดาวน์โหลดเพื่อหารายได้ให้กับครอบครัวของอีกฝ่ายโดยตอนนี้ทำเสร็จไปแล้วจำนวน 6 เพลง ตนเองร้อง 3 เพลง ซึ่งอัลบั้มนี้จะมีบริษัทแกรมมี่เป็นผู้จัดจำหน่าย ส่วนเรื่องลิขสิทธิ์นั้นจะดูแลโดย "ดร.มนส โนนุช" กรรมการและผอ.สำนักนโยบายและแผน มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์

เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็เป็นทางด้านของผู้บริหารห้างเสียงสยามแผ่นเสียงที่ได้ออกมาเผยว่ายินดีหากทางนักร้องดังจะเอาเพลงของสายัณห์ไปร้องแต่ก็อยากจะขอดูรายละเอียดว่ามีเพลงอะไรบ้าง รวมถึงช่องทางการจัดเก็บรายได้เป็นอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องการดาวน์โหลด เนื่องจากบริษัทต้องมีการจัดเก็บเอกสารต่างๆ

ที่สำคัญก็คือทางค่ายเองก็เตรียมที่จะทำเพลงออกมาเพื่อช่วยครอบครัวอีกฝ่ายเช่นกัน โดยตอนนี้ได้รวบรวมเพลงเก่ามาทำเป็นอัลบั้มใหม่จำนวน 6-7 อัลบั้มแล้ว นอกจากนี้ก็ยังมีอัลบั้มเพลงที่อีกฝ่ายบันทึกเสียงค้างไว้เมื่อปีพ.ศ.2524 ก่อนที่จะไปเซ็นสัญญากับค่ายอื่นที่จะมีการทำออกมาวางขายด้วย
...
รู้ไว้ใช่ว่า...
นอกจากการว่าจ้างด้วยเงินสดเท่านั้นไม่รับเช็แล้ว เป็นอันรู้กันว่านักร้องคนซื่อที่ชื่อ "สายัณห์ สัญญา" คนนี้ไม่เคย "เล่นฟรี" และนั่นก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เจ้าตัวไม่พอใจจนถึงกับเปิดศึกกับหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของบ้านเรามาแล้ว

โดยเรื่องของเรื่องว่ากันว่ามาจากการที่เจ้าตัวได้ถูกว่าจ้างให้ไปร่วมแสดงในงานเปิดโรงเรียนแห่งหนึ่งที่นสพ.ที่ว่าเป็นผู้สร้าง แต่ปรากฏว่าได้เกิดมีปัญหาเรื่องค่าตัวขึ้นมากระทั่งนักร้องดังเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมากได้ต่อว่าหนังสือพิมพ์ที่ว่าอย่างรุนแรง และนั่นเองที่ได้กลายมาเป็นที่มาของข่าวตร.บุกจับวงไฮโลของนักร้องลูกทุ่งชื่อดังถึงหลังเวที ซึ่งข่าวที่ว่านี้มีเพียง นสพ.ฉบับดังกล่าวฉบับเดียวเท่านั้นที่รายงานแถมยังเล่นเป็นข่าวพาดหัวหน้าหนึ่งอีกต่างหาก

นอกจากนี้ถึงแม้จะมีอัลบั้มเพลงเกือบจะ 60 ชุด เป็นเจ้าของเสียวร้องเพลงกว่า 1,200 เพลงตลอดจนมีเพลงฮิตกว่า 100 เพลง แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตว่าตลอดเวลาที่อยู่ในวงการเพลง สายัณห์ สัญญา ไม่เคยได้รับรางวัลเกี่ยวกับการร้องเพลงประดับให้กับชีวิตตนเองเลย

เรื่องนี้มีการบอกกล่าวกันถึงสาเหตุกันโดยบ้างก็ว่าเป็นเพราะในการมอบรางวัลต่างๆ เช่น รางวัลเเผ่นเสียงพระราชทานทองคำนั้นไม่ได้มีการจัดเป็นประจำทุกปี บางปีมีการจัดแต่ปีนั้นเพลงของเจ้าตัวกลับไม่เป็นที่นิยม หรือบางครั้งก็ไม่มีเวลาในการที่จะไปส่งเข้าประกวดเพราะติดการเดินสายแสดงคอนเสิร์ต และบางปีที่เจ้าตัวมีเพลงดีในปีนั้นก็ไม่มีการจัดเสียอย่างนั้น

อย่างไรก็ตามแท้ที่จริงแล้วที่ผ่านมาได้มีการตัดสินใจที่จะมอบรางวัลให้กับเขาหลายครั้งพอสมควร ทว่าด้วยความที่เป็นคนไม่ค่อยที่จะสนใจเรื่องราวในทำนองนี้ก็เป็นเจ้าตัวเองที่ปฏิเสธไม่ขอรับรางวัลที่ว่าเองต่างหาก
กำลังโหลดความคิดเห็น