ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เปิดตัว 2 ลูกออริกซ์พันธุ์ “เจมส์บอค” สมาชิกใหม่ หลังขยายพันธุ์สำเร็จ เกิดช่วงปลายเดือนกันยายน ผอ.แจงเป็นสัตว์หายาก โดดเด่นที่เขายาว พร้อมแจงเร่งติดไฟกก สแลน กับเสริมกองฟางให้สัตว์เพิ่มความอบอุ่นรับลมหนาว ส่วนไฮซีซันเตรียมนำสัตว์ใหม่ๆ คาบาเรต์คณะใหม่มาเพิ่ม
วันนี้ (9 ต.ค.) ดร.ศราวุฒิ ศรีสศกุน ผุ้อำนวยการสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี แถลงข่าวเปิดตัวลูกออริกซ์ (Oryx) สายพันธุ์เจมส์บอค (Gemsbok) จำนวน 2 ตัว ซึ่งเป็นสมาชิกใหม่ล่าสุดของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี พร้อมทั้งนำสื่อมวลชนเข้าชมลูกเจมส์บอคทั้ง 2 ตัว ที่ส่วนจัดแสดงพรีเดเตอร์พราวน์
การเปิดตัวลูกเจมส์บอคทั้ง 2 ตัวในครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีสามารถขยายพันธุ์ออริกซ์สายพันธุ์ดังกล่าวได้สำเร็จ และได้ลูกเจมส์บอค จำนวน 2 ตัว จากแม่คนละตัว โดยตัวแรกเป็นเพศเมีย เกิดเมื่อวันที่ 24 ก.ย. ส่วนตัวที่ 2 เป็นเพศผู้ เกิดเมื่อวันที่ 27 ก.ย. ทำให้ในขณะนี้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี มีออริกซ์ สายพันธุ์เจมส์บอค ทั้งสิ้นจำนวน 6 ตัว เป็นตัวผู้ 3 ตัว และตัวเมีย 3 ตัว
ออริกซ์ เป็นสัตว์ที่มีถิ่นกำเนิดในแถบแอฟริกาตะวันออก และใต้ มีทั้งหมด 4 ชนิด โดยสายพันธุ์เจมส์บอค มีลักษณะเด่นคือ มีเขาตั้งเกือบตรง ยาวประมาณ 75-120 เซนติเมตร ทั้งในเพศผู้และเพศเมีย แต่เขาในตัวเมียจะเล็กกว่า ขนาดลำตัวยาวประมาณ 190 เซนติเมตร ความสูงถึงไหล่ประมาณ 120 เซนติเมตร หนัก 150-200 กิโลกรัม ชอบอยู่อาศัยรวมกันเป็นฝูงใหญ่ และหากินตามทุ่งหญ้าร่วมกับสัตว์กินพืชชนิดอื่นๆ
ส่วนการผสมพันธุ์จะเริ่มตั้งแต่เมื่ออายุได้ 1 ปี ครึ่งถึง 2 ปี แต่ละครั้งตั้งท้องนาน 8-10 เดือน และตกลูกครั้งละ 1 ตัว ทั้งนี้ เจมส์บอค เป็นสัตว์ที่มีความระมัดระวังสูง เมื่อตกใจจะกระโดดหนี แต่หากถูกโจมตีก็จะใช้เขาที่ยาว และแหลมในการต่อสู้กับศัตรู
ดร.ศราวุฒิ กล่าวว่า เจมส์บอค ทั้ง 2 ตัวซึ่งเป็นสมาชิกใหม่ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีนั้นถือเป็นสัตว์ที่แปลก และหาชมได้ยาก ถือเป็นข่าวดีในการต้อนรับช่วงปิดเทอม รวมทั้งเป็นการเพิ่มสมาชิกสัตว์ชนิดใหม่ๆ ให้แก่ผู้ที่เข้ามาเที่ยวชมเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยคาดว่าหลัจากนี้ประมาณ 1 สัปดาห์ จะนำลูกเจมส์บอคทั้ง 2 ตัวออกแสดงในส่วนจัดแสดงให้ประชาชนสามารถเข้าชมได้
ดร.ศราวุฒิ ยังได้กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึงว่า ในส่วนของการดูแลสุขภาพสัตว์ในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว ได้ดำเนินการติดตั้งไฟกกภายในคอกสัตว์ รวมทั้งนำกองฟางเข้าไปเพิ่มเพื่อให้ความอบอุ่น และติดตั้งสแลนเพื่อป้องกันลมแล้ว เนื่องจากสภาพอากาศ และอุณหภูมิในช่วงนี้อาจส่งผลให้สัตว์เกิดการเจ็บป่วยได้ จึงต้องทำการป้องกันไว้ก่อน โดยได้ดำเนินการครบทั้ง 3 โซนของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีแล้ว
ขณะที่การเตรียมการเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวนั้น นายศราวุฒิ เปิดเผยว่า ในปีนี้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้เตรียมที่จะนำเสนอสิ่งใหม่ในหลายๆ ด้านให้แก่ผู้ที่เข้ามาเที่ยวชม ไม่ว่าจะเป็นการแสดงโชว์เสือขาว การแสดงคาบาเรต์ที่จะมีคณะนักแสดงชุดใหม่เข้ามาให้บริการ การนำสัตว์ชนิดใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติมในส่วนจัดแสดง เช่น วอลลาบีเผือก จระเข้เผือก เสือทอง เป็นต้น เพื่อเป็นการสร้างความประทับใจให้ผู้ที่เข้ามาเที่ยวชมได้เห็นว่าเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมีกิจกรรมใหม่ๆ มานำเสนอในทุกๆ ปี