ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเปิดตัว “Tiger Show” กิจกรรมใหม่เตรียมรับไฮซีซัน ชูจุดขายนำเสือขาวโชว์แสดงความสามารถหลากหลาย แถมเป็นแห่งแรก-แห่งเดียวในเมืองไทย ผอ.ไนท์ซาฟารีเผยเปิดให้ชมครั้งแรก 12 ส.ค.นี้ จากนั้นชมแบบไม่เป็นทางการจนถึงสิ้นเดือน ก.ย.-1 ต.ค.เปิดตัวเป็นทางการ ระบุดูฟรีไม่คิดเงินเพิ่ม
ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จังหวัดเชียงใหม่ ดร.ศราวุฒิ ศรีศกุน ผู้อำนวยการสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) เป็นประธานในการแถลงข่าวเปิดกิจกรรม Tiger Show ณ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี
กิจกรรมดังกล่าวเป็นการนำเสือขาวภายในสวนสัตว์เชียงใหม่มาแสดงความสามารถในรูปแบบต่างๆ เช่น การกระโดดสูง กระโดดไกล เดินข้ามคน เต้นกังนัมสไตล์ เป็นต้น นำโดยจัสติน เสือโคร่งขาวหิมะวัย 2 ปี กับเมสซี และมายา เสือโคร่งขาววัย 2 ปีครึ่ง ภายใต้การดูแลของผู้ฝึกสอน หรือ Mr.Tiger Man โดยกิจกรรม Tiger Show จะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ชมเป็นครั้งแรกในวันแม่แห่งชาติ 12 ส.ค.นี้ จากนั้นจะเปิดให้ชมอย่างไม่เป็นทางการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายจนถึงวันที่ 30 ก.ย. ก่อนที่จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ต.ค.ต่อไป
ดร.ศราวุฒิเปิดเผยว่า กิจกรรม Tiger Show ถือเป็นกิจกรรมใหม่ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้นำมาให้บริการเพิ่มเติมแก่นักท่องเที่ยว รวมทั้งตั้งเป้าที่จะให้เป็นจุดเด่นใหม่ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีในฤดูกาลท่องเที่ยวประจำปีนี้ โดยกิจกรรมดังกล่าวมีจุดเด่นคือ เป็นการนำเสือขาวซึ่งเป็นสัตว์หายากมาทำการฝึกฝนและนำมาแสดงความสามารถในด้านต่างๆ ให้ประชาชนได้ชม ซึ่งการนำเสือขาวมาจัดแสดงนั้นถือเป็นครั้งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีการแสดงในลักษณะดังกล่าว
ดร.ศราวุฒิกล่าวต่อไปว่า กิจกรรม Tiger Show จะจัดแสดงวันละ 2 รอบ ได้แก่ช่วงระหว่าง 17.30-18.00 น. และ 19.00-19.30 น. และจะปิดให้บริการทุกวันพุธ โดยนอกจากการเข้าชมการแสดง นักท่องเที่ยวสามารถบันทึกภาพร่วมกับเสือโคร่งชนิดต่างๆ หรือเลือกซื้อของฝากของที่ระลึกจากร้าน Tiger Shop ได้อีกด้วย อีกทั้งการชมการแสดง Tiger Show นั้นยังเป็นกิจกรรมที่ผู้เข้ามาเที่ยวชมเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีสามารถรับชมได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแต่อย่างใดอีกด้วย
ทั้งนี้ ภายหลังการแถลงข่าว ดร.ศราวุฒิยังได้ตอบคำถามของสื่อมวลชนต่อกรณีข่าวการควบรวมสวนสัตว์เชียงใหม่เข้าเป็นส่วนหนึ่งของสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยระบุว่าเรื่องดังกล่าวขึ้นอยู่กับนโยบายของภาครัฐ หากจะมีการรวมองค์กรเข้าด้วยกันจริงในฐานะของผู้ที่ดูแลรับผิดชอบก็พร้อมที่จะดำเนินการ พร้อมทั้งกล่าวว่าเมื่อครั้งที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเข้ามาสังกัดสำนักงานพัฒนาพิงคนครนั้นก็ถือเป็นการบูรณาการในด้านการท่องเที่ยว กล่าวคือเป็นการทำการตลาดครั้งเดียวแต่สามารถแบ่งปันลูกค้าระหว่างกันได้ ส่วนเรื่องของสวัสดิการและผลประโยชน์ที่ได้รับเมื่อเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสำนักงานพัฒนาพิงคนครก็ดีกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกระแสการคัดค้านของพนักงานสวนสัตว์เชียงใหม่ และกระแสข่าวที่ว่าการรวมสวนสัตว์เชียงใหม่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสำนักงานพัฒนาพิงคนครเนื่องจากต้องการนำรายได้จากสวนสัตว์เชียงใหม่เข้ามารวมกับสำนักงานพัฒนาพิงคนครที่ยังอยู่ในภาวะขาดทุนนั้น ดร.ศราวุฒิตอบเพียงว่ายังไม่มีความเห็นในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด
