เพชรบุรี - เขื่อนห้วยแม่ประจันต์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี เร่งระบายน้ำ พร้อมประกาศเตือนชาวบ้านที่อาศัยใต้เขื่อนเก็บของขึ้นที่สูง
วันนี้ (9 ต.ค.) ที่โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ประจันต์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี หมู่ที่ 5 บ้านจะโปรง ต.หนองหญ้าปล้อง อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี นายวิชัย ไตรสุรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี นายสมชาย อุทัยน้อย ปลัดอำเภอหนองหญ้าปล้อง นายสายันต์ พวงสั้น ปลัดฝ่ายป้องกันอำเภอหนองหญ้าปล้อง นายทองล้วน เผ่าวิจารณ์ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำ และนายเกษม ชุ่มแอ่น ที่ปรึกษาโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี ได้เดินทางไปดูปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ประจันต์ เพื่อประเมินสถานการณ์ในการระบายน้ำออกทางประตูระบายน้ำท้ายเขื่อน หลังพบว่า น้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ประจันต์ มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากภาวะฝนที่ตกหนัก และต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 7-8 ต.ค.ที่ผ่านมา
โดยขณะนี้ปริมาณน้ำ ณ วันนี้ (9 ต.ค.) มีอยู่ 41.88 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 99.23% ซึ่งความจุของอ่างเก็บน้ำอยู่ที่ 42.20 ล้านลูกบาศก์เมตร และยังคงเหลืออีกประมาณ 5 ซม.ของความจุน้ำก็จะล้น ทำให้ต้องเร่งระบายน้ำออกจากประตูน้ำท้ายเขื่อนในปริมาณ 15 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เนื่องจากหวั่นเกรงว่าหากทำการระบายน้ำจากประตูน้ำใหญ่โดยตรงจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อย่างแน่นอน
นายวิชัย ไตรสุรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี เปิดเผยว่า ณ ปัจจุบันวันนี้ในเขื่อนห้วยแม่ประจันต์ ซึ่งจากความจุที่กักเก็บน้ำ 42.20 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ตอนนี้ปริมาณน้ำอยู่ที่ 41 ล้านลูกบาศก์เมตร ก็มีอยู่ 99% โดยเขื่อนมีความจุน้ำได้ค่อนข้างน้อยแต่ในปริมาณที่จะต้องรองรับพื้นที่รับน้ำฝนค่อนข้างเยอะ ซึ่งจากเดิมน้ำในเขื่อนมีอยู่ปริมาณ 50% แต่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีฝนตกหนักซึ่งเกิดจากร่องมรสุมทำให้มีน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็ได้มีการวางแผนพร่องน้ำก่อนหน้าที่น้ำจะมีถึง 50% โดยได้ทำการเปิดระบายน้ำบริเวณตัวท้ายเอาต์เลต ซึ่งเป็นท่อส่งน้ำ ซึ่งตอนนี้ทำการเปิดปล่อยน้ำอยู่ที่ระดับ 15 ลูกบาศก์เมตร/วินาที
ส่วนสาเหตุที่ทำการเปิดระบายน้ำได้ไม่เยอะเนื่องจากพื้นที่ท้ายของเขื่อนห้วยแม่ประจันต์มีราษฎร มีเกษตรกรทำการเพาะปลูกพื้นที่การเกษตรรุกล้ำเข้ามาในตัวลำห้วยแม่ประจันต์จำนวนมาก แต่ถ้าหากเกิดวิกฤตจริงๆ ก็จะมีทางระบายน้ำฉุกเฉินซึ่งเป็นเซอร์วิสสปรินเวย์ ที่สามารถระบายน้ำได้ถึง 1,400 ลูกบาศก์เมตร/วินาที
ส่วนตัวเขื่อนแก่งกระจาน ณ วันนี้มีน้ำอยู่ปริมาณ 600 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุที่สามารถเก็บกักได้อยู่ที่ 710 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งตอนนี้มีน้ำอยู่ 84% โดยในช่วงมรสุมที่ผ่านมาได้มีการปิดการระบายน้ำของเขื่อนแก่งกระจานเพื่อที่จะช่วยการระบายน้ำท้ายเขื่อนไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชนของในเขตจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งก็ได้ผล ซึ่งตอนนี้ปริมาณน้ำที่เปิดระบายจากท้ายเขื่อนในขณะนี้อยู่ 75 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งก็ยังไม่เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ในชุมชน อ.เมือง อ.บ้านลาด อ.บ้านแหลม แต่อาจจะมีผลกระทบพื้นที่ริมตลิ่งบ้าง หรือที่ต่ำบางส่วน
แต่หากมีแนวโน้มที่จะมีฝนตกหนักลงมาอีกทางโครงการส่งน้ำที่ 3 ก็จะมีการประเมินน้ำที่จะไหลลงอ่าง และในขณะเดียวกัน ก็จะบริหารน้ำโดยจัดการจราจรทางน้ำเพื่อที่จะไม่ให้ส่งผลกระทบต่อในพื้นที่ส่วนท้าย หรือได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
ด้านนายสมชาย อุทัยน้อย ปลัดอำเภอหนองหญ้าปล้อง เปิดเผยว่า ในส่วนของอำเภอหนองหญ้าปล้องนั้น หลังจากเมื่อวานนี้ (8 ต.ค.) นายรัฐพล นิโครธานนท์ นายอำเภอเขาย้อย ได้ลงพื้นที่ไปตรวจดูประตูระบายน้ำบริเวณ ต.ท่าตะคร้อ และบริเวณริมตลิ่งหลายๆ จุด ตามชายแม่น้ำ และมีการแจ้งเตือนถึงกำนันผู้ใหญ่บ้านให้แจ้งถึงพี่น้องประชาชนให้ขนของขึ้นที่สูง เพราะช่วงนี้มีมรสุมเข้าซึ่งขณะนี้ในพื้นที่ประชาชนได้ทำการขนของขึ้นที่สูงแล้ว โดยมีการแจ้งทุกหมู่บ้านแต่ก็ยังไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น หรือน่าเป็นห่วง
“เพราะเมื่อปี 2554 ที่มีฝนตกหนักแล้วเกิดน้ำท่วม โดยชาวบ้านในพื้นที่ต่างรับสภาพ และมีความเคยชินกันอยู่แล้ว โดยนายอำเภอได้กำชับให้ทางปลัดปล้องกัน และผู้รับผิดชอบตำบลได้ลงไปประสานกับกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ให้ดูแลพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหมู่บ้านที่อยู่ริมน้ำกว่า 10 หมู่บ้าน 3 ตำบล ประกอบด้วย ต.หนองหญ้าปล้อง ต.ท่าตะคร้อ และ ต.ยางน้ำกลัดใต้ ยกเว้นตำบลยางน้ำกลัดเหนือ ที่อยู่ในโซนเหนือเขื่อนห้วยแม่ประจันต์”