กาฬสินธุ์ - จังหวัดเตรียมรับมือ “หวู่ติ๊บ” พร้อมเฝ้าระวังและเตือนพื้นที่ท้ายน้ำ 3 อำเภอหวั่นน้ำท่วมฉับพลัน หลังแม่น้ำชีที่รับน้ำจากชัยภูมิ และเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ฝายวังยางต้องเร่งระบายน้ำวันละ 45.32 ล้าน ลบ.ม. ป้องกันน้ำล้นพนังเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือน และนาข้าว
วันนี้ (1 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.กาฬสินธุ์ว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำหลังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง พบว่าปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแม่น้ำชี ซึ่งรับน้ำจาก จ.ชัยภูมิ และเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ทั้งนี้ บริเวณสะพานลำชี รอยต่อระหว่าง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ กับ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด และฝายวังยาง ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ พบว่าปริมาณน้ำในแม่น้ำชีสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เฉลี่ย 1.2 เมตรต่อวัน เจ้าหน้าที่ต้องเร่งพร่องน้ำวันละ 45.32 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) เพื่อป้องกันน้ำล้นพนังกั้นน้ำ
ขณะที่นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเตรียมพร้อมรับมือพายุหวู่ติ๊บที่จะทำให้ฝนตกลงมาใน 1-2 วันนี้ ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำชีเพิ่มขึ้นอีก พร้อมเตือนภัย อ.ฆ้องชัย อ.กมลาไสย และ อ.ร่องคำ ซึ่งเป็นพื้นที่ท้ายน้ำ และติดกับแม่น้ำชี ระวังน้ำท่วมฉับพลัน
นายพัฒนะ พลศรี หัวหน้าเขื่อนระบายน้ำวังยาง โครงการลุ่มน้ำชีกลาง กล่าวว่า สำหรับแม่น้ำชีบริเวณฝายวังยางรับน้ำที่ไหลจาก จ.ชัยภูมิ และเขื่อนอุบลรัตน์ ปัจจุบันมีระดับน้ำหน้าฝายที่ 136.73 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ระดับน้ำท้ายฝาย 136.73 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ความจุ 30.89 ล้าน ลบ.ม.จากระดับกักเก็บสูงสุด 33 ล้าน ลบ.ม. หรือ 91.96%
ทั้งนี้ ทางเขื่อนวังยางได้ระบายน้ำผ่านลำน้ำชีไปลงแม่น้ำมูล และแม่น้ำโขง เฉลี่ย 524.52 ลบ.ม.ต่อวินาที หรือ 45.32 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน จากเดิมระบายวันละ 25 ล้าน ลบ.ม. เนื่องจากต้องเตรียมรับมือปริมาณน้ำที่ไหลมาจาก จ.ชัยภูมิและเขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งคาดว่าจะมาถึงภายในสัปดาห์นี้ และเตรียมรับพายุหวู่ติ๊บด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำชีล้นพนัง เอ่อเข้าท่วมที่นาและบ้านเรือนของประชาชน