เตือนพื้นที่ กทม.นอกคันกั้นน้ำ สัปดาห์หน้ามีสิทธิ์อ่วม หลังศูนย์ป้องกันน้ำท่วม กทม.ชี้น้ำทะเลหนุนสูงขึ้นอีก 30 ซม. แถมเจอฤทธิ์ฝนมากจากพายุ “หวู่ติ๊บ” ด้านคลองหลักๆ ใน กทม.ระบายน้ำพร้อมรับมือแล้ว
ศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาว่า เช้านี้น้ำเหนือที่ปล่อยมาวัดได้ 2,337 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อเวลา 10.00 น. วัดได้อยู่ที่ 0.60 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยน้ำจะขึ้นสูงสุดในเวลา 15.00 น. วันที่ 29 ก.ย.นี้ คาดการณ์ 1.20 เมตร
ส่วนสาเหตุที่ระดับน้ำไม่สูงมาก เพราะน้ำทะเลในช่วงนี้ไม่หนุนสูง ทำให้กรมชลประทานเร่งระบายน้ำเหนือลงมาค่อนข้างมาก แต่ในสัปดาห์หน้าเป็นต้นไปฐานน้ำทะเลจะเพิ่มสูงขึ้นจาก 80 เซนติเมตร เป็น 1.10 เมตร ประกอบกับพายุหวู่ติ๊บจะเข้าไทยทำให้ภาคอีสาน รวมถึง กทม.มีฝนมากขึ้น และการปล่อยน้ำเหนือเข้ามาจะมีเพิ่มเติมหรือไม่ จึงยังต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะบ้านที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำที่จะได้รับผลกระทบเป็นพื้นที่แรกๆ เมื่อน้ำเพิ่มสูงขึ้น ส่วนคลองหลักต่างๆ ใน กทม. ได้เร่งระบายน้ำออกให้อยู่ในระดับต่ำเพื่อรับน้ำฝนในสัปดาห์หน้าแล้ว ขณะที่ประตูระบายน้ำยังไม่มีการลด หรือเปิดระบายเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ขณะที่ประตูระบายน้ำคลองสอง เช้าวันนี้สูงสุดวัดด้านนอกประตูระบายน้ำ อยู่ที่ 1.40 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนระดับวิกฤตินั้นอยู่ที่ 1.80 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ระดับดังกล่าวยังอยู่ในระดับที่ กทม.ยังควบคุมได้ ส่วนผระตูน้ำยังคงเปิดอยู่ที่ระดับ 20 เซนติเมตร ส่วนที่ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา ที่รับน้ำด้านตะวันตก และจาก จ.นนทบุรี ระดับน้ำด้านนอกอยู่ที่ 85 เซนติเมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งระดับวิกฤตอยู่ที่ 1.30 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งทั้งสองแห่งยังถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่น่าห่วง
ขณะที่ฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 28 ก.ย.ถึงเช้ามืดวันที่ 29 ก.ย. เป็นผลมาจากพายุหวู่ติ๊บที่นำความชื้นพัดมาในพื้นที่ กทม. ทำให้มีฝนตกมาแต่ลักษณะเป็นฝนอ่อน ปริมาณสะสมเฉลี่ยอยู่ที่ 10 มิลลิเมตร ยังไม่ส่งผลกระทบต่อคลองลาดพร้าวมากนัก ขณะนี่้สำนักการระบายน้ำได้เร่งระบายน้ำในคลองลาดพร้าวออกที่ระดับ -34 ซม.จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เพื่อเตรียมรับฝนในสัปดาห์หน้า (หากน้ำในคลองขึ้นสูงถึง 40 เซนติเมตร จะเข้าระดับวิกฤต) ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า กทม.จะยังคงมีฝนตกร้อยละ 70 ของพื้นที่ และอาจจะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป
ศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาว่า เช้านี้น้ำเหนือที่ปล่อยมาวัดได้ 2,337 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อเวลา 10.00 น. วัดได้อยู่ที่ 0.60 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยน้ำจะขึ้นสูงสุดในเวลา 15.00 น. วันที่ 29 ก.ย.นี้ คาดการณ์ 1.20 เมตร
ส่วนสาเหตุที่ระดับน้ำไม่สูงมาก เพราะน้ำทะเลในช่วงนี้ไม่หนุนสูง ทำให้กรมชลประทานเร่งระบายน้ำเหนือลงมาค่อนข้างมาก แต่ในสัปดาห์หน้าเป็นต้นไปฐานน้ำทะเลจะเพิ่มสูงขึ้นจาก 80 เซนติเมตร เป็น 1.10 เมตร ประกอบกับพายุหวู่ติ๊บจะเข้าไทยทำให้ภาคอีสาน รวมถึง กทม.มีฝนมากขึ้น และการปล่อยน้ำเหนือเข้ามาจะมีเพิ่มเติมหรือไม่ จึงยังต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะบ้านที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำที่จะได้รับผลกระทบเป็นพื้นที่แรกๆ เมื่อน้ำเพิ่มสูงขึ้น ส่วนคลองหลักต่างๆ ใน กทม. ได้เร่งระบายน้ำออกให้อยู่ในระดับต่ำเพื่อรับน้ำฝนในสัปดาห์หน้าแล้ว ขณะที่ประตูระบายน้ำยังไม่มีการลด หรือเปิดระบายเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ขณะที่ประตูระบายน้ำคลองสอง เช้าวันนี้สูงสุดวัดด้านนอกประตูระบายน้ำ อยู่ที่ 1.40 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนระดับวิกฤตินั้นอยู่ที่ 1.80 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ระดับดังกล่าวยังอยู่ในระดับที่ กทม.ยังควบคุมได้ ส่วนผระตูน้ำยังคงเปิดอยู่ที่ระดับ 20 เซนติเมตร ส่วนที่ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา ที่รับน้ำด้านตะวันตก และจาก จ.นนทบุรี ระดับน้ำด้านนอกอยู่ที่ 85 เซนติเมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งระดับวิกฤตอยู่ที่ 1.30 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งทั้งสองแห่งยังถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่น่าห่วง
ขณะที่ฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 28 ก.ย.ถึงเช้ามืดวันที่ 29 ก.ย. เป็นผลมาจากพายุหวู่ติ๊บที่นำความชื้นพัดมาในพื้นที่ กทม. ทำให้มีฝนตกมาแต่ลักษณะเป็นฝนอ่อน ปริมาณสะสมเฉลี่ยอยู่ที่ 10 มิลลิเมตร ยังไม่ส่งผลกระทบต่อคลองลาดพร้าวมากนัก ขณะนี่้สำนักการระบายน้ำได้เร่งระบายน้ำในคลองลาดพร้าวออกที่ระดับ -34 ซม.จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เพื่อเตรียมรับฝนในสัปดาห์หน้า (หากน้ำในคลองขึ้นสูงถึง 40 เซนติเมตร จะเข้าระดับวิกฤต) ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า กทม.จะยังคงมีฝนตกร้อยละ 70 ของพื้นที่ และอาจจะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป
