กาญจนบุรี - ตำรวจกาญจนบุรี ร่วมฝ่ายปกครองสกัดจับขบวนการค้ายาบ้าข้ามชาติ ได้ผู้ต้องหาชาวพม่า 2 ราย ยาบ้า 1,795 เม็ด ยึดไทเกอร์ 1 คัน
เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (27 ก.ย.) พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีการลักลอบขนยาบ้าจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่อำเภอด่านมะขามเตี้ย ผ่านเส้นทางชายแดนบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า แค็บ รุ่นไทเกอร์ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บย 97 กาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงสั่งการให้ พ.ต.ท.วันชัย อ่อนละออ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.เจษฎา ปิ่นชูทอง สว.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี ประสานไปยัง นายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เพื่อนำกำลังไปตั้งจุดตรวจจุดสกัด และวางกำลังไว้ตามแนวชายแดนเพื่อสังเกตรถยนต์กระบะที่วิ่งเข้า-ออกระหว่างประเทศ
ต่อมา เจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะคันดังกล่าววิ่งข้ามชายแดนมาจากประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้วิทยุให้จุดสกัดทราบ จนกระทั่งมาถึงหลักกิโลเมตรที่ 25 หมู่ 12 ต.บ้านเก่า เจ้าหน้าที่จึงได้เรียกให้คนขับหยุดรถพร้อมแสดงตัวตรวจค้น จากการตรวจค้นพบยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีฟ้าแบบเปิดปิด จำนวน 9 ถุง ซุกซ่อนอยู่ใต้แผ่นยางรองพื้นหน้าซ้าย นับรวมกันได้ 1,795 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัว นายโซทวย ไม่มีนามสกุล 23 ปี ชาวพม่า คนนั่ง และนายซันอู ไม่มีนามสกุล อายุ 29 ปี ชาวพม่า คนขับ มาสอบปากคำที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการ พร้อมยึดของกลางยาบ้า และรถยนต์กระบะเอาไว้เป็นหลักฐาน
พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสองซึ่งเป็นชาวพม่า สามารถพูดภาษาไทยได้อย่างชัดเจน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รู้ตัวกลุ่มผู้ร่วมขบวนการแล้ว โดยมีทั้งชาวไทย และชาวพม่า แต่ขอปิดข้อมูลไว้ก่อนเพื่อเป็นแนวทางในการสืบสวน ส่วนยาบ้าที่ยึดได้ผู้ต้องหาสารภาพว่า ไปซื้อมาจากอำเภอพญาตองซู ชายแดนด้านอำเภอสังขละบุรี และได้มีการเปลี่ยนเส้นทางในการลักลอบนำยาบ้าเข้ามาในประเทศไทย แต่จะลักลอบนำเข้ามาทีละจำนวนไม่มาก เพื่อง่ายต่อการตบตาเจ้าหน้าที่ โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่าทำมาแล้วหลายครั้ง ส่วนของกลางที่ยึดได้จะนำไปส่งให้แก่ลูกค้าในพื้นที่ อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน พ.ต.อ.พงษกร เผย
ด้านนายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี กล่าวว่า ตั้งแต่มีการเปิดด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองกาญจนบุรี และกำนัน รวมทั้งผู้ใหญ่บ้าน ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ได้เฝ้าระวังการกระทำผิดกฎหมายมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายของแรงงานชาวพม่า และการลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาจำหน่ายภายในประเทศ การจับกุมครั้งนี้ถือว่าเป็นการจับกุมครั้งแรก อนาคตอาจจะมีการลักลอบนำสิ่งเสพติดเข้ามาอีก ดังนั้น จึงจะต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และจะตรวจค้นรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่ผ่านเข้า-ออก ระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัดต่อไป
