หึ่ง! ท่าทรายใกล้ชิดนักการเมืองเปิดขุด-ขนทราย ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก

เชียงราย - ชาวบ้านจากหมู่บ้านป่าก่อดำ ม.10 ต.ป่าก่อดำ อ.แม่ลาว ประมาณ 200 คน พากันปักหลักกางเต็นท์และนำรถอีแต๋นไปตั้งขวางประตูทางเข้าออกท่าทรายเพื่อไม่ให้มีการบรรทุกทรายเข้าออก เหตุท่าทรายสร้างความเดือดร้อน พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปิดท่าทรายก่อนถึงจะยอมเปิดทางให้

รายงานข่าวจาก จ.เชียงรายแจ้งว่า ได้มีชาวบ้านจากหมู่บ้านป่าก่อดำ ม.10 ต.ป่าก่อดำ อ.แม่ลาว ประมาณ 200 คน พากันปักหลักกางเต็นท์และนำรถอีแต๋นไปตั้งขวางประตูทางเข้าออกท่าทรายเพื่อไม่ให้มีการบรรทุกทรายเข้าออก เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำแผงเหล็กมากั้นปิดเส้นทางถนนพหลโยธินสายเชียงราย-กรุงเทพฯ ขาล่องไว้เพียง 1 ช่องเพื่อความปลอดภัย

ก่อนหน้านั้นชาวบ้านพากันไปชุมนุม ณ ที่ว่าการ อ.แม่ลาว เพื่อเรียกร้องให้ทางอำเภอพิจารณาระงับการดูดทรายในแม่น้ำลาวของบริษัทเอกชนรายหนึ่ง เพราะชาวบ้านเห็นว่าท่าทรายตั้งอยู่กลางเขตชุมชน ใกล้โรงพยาบาลแม่ลาว และโรงเรียนป่าก่อดำด้วย จึงส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งเรื่องฝุ่นละออง การทรุดตัวของดิน การจราจร ฯลฯ และมีอาณาเขตติดกับโรงเรียนป่าก่อดำ และโรงพยาบาลแม่ลาว

นายอำนวย จอมใจ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป่าก่อดำ กล่าวว่า โรงเรียนเปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษาตอนต้น มีนักเรียน 150 คน และมีเนื้อที่โรงเรียนประมาณ 36 ไร่ เมื่อมีรถขนทรายแล่นผ่านไปมาบนถนนของหมู่บ้านจำนวนมากก็รู้สึกกังวลว่าจะเป็นอันตรายต่อเด็ก เพราะบ่อทรายตั้งอยู่ด้านหลังของโรงเรียนพอดี ทั้งยังเกรงจะเกิดการทรุดตัวของดินจนกินเนื้อที่โรงเรียนด้วย

นางทองใบ วงค์ษารัตน์ ชาวบ้านป่าก่อดำ กล่าวว่า ซึ่งแต่ละวันจะมีรถยนต์บรรทุกทรายวิ่งเข้าออกจำนวนมาก ซึ่งสร้างผลกระทบเรื่องเสียงดัง ฝุ่นละอองที่ปลิวเข้าบ้าน ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือเกรงว่าจะทำให้บ้านเรือนทรุดตัว จึงอยากให้มีการปิดกิจการโดยทันที

ด้าน นายประพันธ์ พลสารัตน์ สมาชิกสภาเทศบาล ต.ป่าก่อดำ กล่าวว่า การเปิดท่าทรายแห่งนี้เปิดดำเนินการได้ประมาณ 1 เดือนซึ่งไม่รู้ว่าเปิดได้อย่างไรเพราะไม่มีการทำประชาคมหรือประชาพิจารณ์จากชาวบ้าน รวมทั้งผ่านการพิจารณาของสภาเทศบาล ต.ป่าก่อดำ จึงอยากให้ตรวจสอบว่ามีการออกใบอนุญาตอย่างถูกต้องหรือไม่ หากได้รับก็แสดงว่าคงเป็นเอกสารเท็จ

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ต่อมานายพงศ์สวัสดิ์ มีหนัก ปลัด อ.แม่ลาวได้เข้าเจรจากับชาวบ้าน แต่ปรากฏว่าไม่สามารถหาคำตอบเกี่ยวกับการประกอบกิจการของเอกชนรายนี้มาให้ชาวบ้านได้รับทราบได้

ทำให้ชาวบ้านพากันปักหลักด้วยการกางเต็นท์และนำรถอีแต๋นไปตั้งขวางประตูทาง เข้าออกท่าทรายเพื่อไม่ให้มีการบรรทุกทรายเข้าออก เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำแผงเหล็กมากั้นปิดเส้นทางถนนพหลโยธินสายเชียงราย-กรุงเทพฯ ขาล่องไว้เพียง 1 ช่องเพื่อความปลอดภัย โดยชาวบ้านยืนยันว่าจะปักหลักรอจนกว่าทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการสั่งปิดท่าทรายแห่งนี้ให้ถึงที่สุด ทำให้กระทั่งช่วงเย็นสถานการณ์ยังคงเหมือนเดิม

ทั้งนี้ มีกระแสในหมู่บ้านชาวบ้านว่าท่าทรายดังกล่าวเป็นเอกชนที่ใกล้ชิดกับผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับจังหวัด และยังใกล้ชิดกับนักการเมืองระดับชาติขั้นระดับรัฐมนตรี รวมถึงบางส่วนลือกันว่าเป็นญาติกับผู้บริหารจังหวัดในปัจจุบันด้วย