เชียงราย - ชาวบ้านริมน้ำกกฮือประท้วงหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน จี้ นอภ.ปิด 2 ท่าดูดทรายด่วน หลังส่งผลกระทบสิ่งแวดล้อม ทำตลิ่งน้ำกกพัง สิ่งปลูกสร้างแตกร้าว ทั้งที่ใบอนุญาตหมดอายุตั้งแต่ 5 ส.ค. แถมประชาคมหมู่บ้านลงมติไม่เอาแล้ว
วันนี้ (23 ส.ค.) ชาวบ้านจากบ้านสันธาตุ หมู่ 4 ต.โยนก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ประมาณ 200 คน ชุมนุมกันที่ลานหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน พร้อมถือป้ายต่อต้านการเปิดท่าทรายริมฝั่งแม่น้ำกกใกล้หมู่บ้าน โดยชาวบ้านระบุว่ากำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเสียงดัง ฝุ่น ถนนพังเสียหายเพราะรถขนทราย ส่วนแม่น้ำกกก็มีปัญหาตลิ่งพังทลาย สิ่งปลูกสร้างแตกร้าว ซึ่งที่ผ่านมาเคยยื่นหนังสือไปถึงจังหวัดและอำเภอแล้ว ได้รับคำตอบว่าใบอนุญาตหมดลงในวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าจนถึงขณะนี้ยังมีการขุดตักทรายกันอยู่
นางพรพรหม วงค์สกุล อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 กล่าวว่า ท่าทรายทั้ง 2 ราย คือ ท่าทรายโยนก และท่าทรายศรีลังกา ทำการดูดทรายในหมู่บ้านมานานเกือบ 20 ปี เมื่อใบอนุญาตหมดอายุ ชาวบ้านก็ขอให้หยุด แต่ทางผู้ประกอบการกลับยื่นเรื่องขอต่อใบอนุญาตอีก ซึ่งพอชาวบ้านได้ทำประชาคมหมู่บ้านแล้วมีมติไม่ต้องการให้มีท่าทรายในหมู่บ้าน แต่ทางผู้ประกอบการก็ยังนำเรือดูดทรายไปติดตั้งในแม่น้ำกก เพื่อทำการดูดทรายอีก ดังนั้นชาวบ้านจึงต้องออกมาเรียกร้องให้นายอำเภอเชียงแสน นำเจ้าหน้าที่ไปปิดท่าทรายตามข้อตกลงเสีย รวมทั้งต้องการให้สำนักงานที่ดินไปรังวัดที่ดิน ว่ามีการใช้สถานที่ดูดทรายรุกล้ำที่สาธารณะหรือไม่ด้วย
ต่อมานายรังสรรค์ ขวัญเมืองเดิม ปลัดอาวุโส อ.เชียงแสน เป็นตัวแทนนายอำเภอมารับหนังสือจากชาวบ้าน พร้อมแจ้งว่า ทางอำเภอได้ทำเรื่องส่งให้จังหวัดแล้ว ล่าสุดทางคณะอนุกรรมการจังหวัด ได้มีคำสั่งให้ชะลอการออกใบอนุญาตออกไป จนกว่าจะหาข้อยุติได้ แต่เมื่อชาวบ้านมายื่นหนังสือ และแจ้งความประสงค์ในวันนี้ ทางอำเภอก็จะส่งเรื่องให้หน่วยเหนือประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านยืนยันจะขอคำตอบเป็นทางการจากนายอำเภอ งทำให้มีการชุมนุมกันถึงช่วงบ่าย