ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวเมืองแปดริ้ว ผวาข่าวโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ขนาดใหญ่เตรียมขยายกำลังผลิต หวั่นกระทบสภาพแวดล้อม และชีวิตความเป็นอยู่ พร้อมตั้งคำถามผู้บริหารนิคมฯ เกตเวย์ซิตี้ ถึงแผนรับมือปัญหาที่จะเกิดจากการขนส่ง และการดูแลสิ่งแวดล้อมจากอุตสาหกรรมจำนวนมากที่เข้ามาในพื้นที่
นายเฉลิมเกียรติ นพเกตุ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ได้ออกมาเปิดเผยถึงข่าวการเตรียมขยายกำลังผลิตแบตเตอรี่จาก 5 แสนลูกต่อปีเป็น 4 ล้านลูกต่อปี ของบริษัท ฮิตาชิ สตอเรจ แบตเตอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์รายใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ซิตี้ ว่า กำลังส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของชาวบ้านที่เริ่มมีความกังวลว่าอาจมีผลต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งอากาศ และกลิ่น โดยเฉพาะสารตะกั่วซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามีพิษร้ายแรง และเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ทั้งนี้ จากข้อมูลที่มีทราบว่า นิคมอุตสาหกรรมทั่วไปจะไม่อนุญาตให้โรงงานประเภทนี้เข้ามาก่อตั้งในนิคมอุตสาหกรรม แต่นิคมฯ เกตเวย์ซิตี้ ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กลับอนุญาตให้มีโรงงานประเภทดังกล่าวเข้ามาลงทุนมากถึง 4 แห่ง คือ โรงงาน GS แบตเตอรี่ (บริษัท ยีเอส ยัวซ่า สยาม อินดัสตรีส์ จำกัด) ซึ่งซื้อกิจการมาจาก ยัวซ่า (yuasa), ผู้ผลิต 3K แบตเตอรี่ (บริษัทไทยนันเฟอรัสเมทัล จำกัด) บริษัทฮิตาชิสตอเรจ แบตเตอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทหลอมตะกั่วจากแบตเตอรี่เก่า (บริษัท เชซ อินดัสเตรียล จำกัด)
ที่ผ่านมา ชาว อ.แปลงยาว ไม่เห็นชอบที่จะให้มีอุตสาหกรรมประเภทนี้ในพื้นที่ เพราะเกรงผลกระทบที่จะเกิดต่อลูกหลาน และประชาชน ซึ่งตนในฐานะตัวแทนประชาชนเห็นว่าควรให้ข้อมูลแก่ประชาชนที่ไม่รู้ข่าวสาร เพื่อป้องกันสุขภาพ และความเป็นอยู่ โดยที่ผ่านมา ได้เคยทำหนังสือแจ้งต่อนิคมฯ ว่า การเข้ามาของอุตสาหกรรมจำนวนมากกำลังส่งผลกระทบต่อชีวิต และความเป็นอยู่ของประชาชน รวมทั้งยังก่อให้เกิดปัญหาด้านการจราจรในพื้นที่แต่ก็ไม่เป็นผล
โดยจะได้มีการสอบถามไปยังผู้บริหารนิคมฯ เกตเวย์ซิตี้ ว่า มีแผนรองรับการขนส่งในพื้นที่ที่จะเพิ่มขึ้นจากปริมาณการขนถ่ายแบตเตอรี่เก่าที่ต้องนำเข้ามาหลอมใหม่ ทั้งปริมาณการขนส่งวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นของบริษัทดังกล่าวอย่างไร