กัมพูชายังไม่ขนดินออก อ้างคุยรัฐบาลไทยแล้ว ขณะที่ทหารไทยไม่ยอมสั่งปิดช่องอานม้าต่อ

อุบลราชธานี - ทหารกัมพูชายังดื้อไม่ยอมขนดินออกจากจุดพิพาทที่เขมรต้องการทำบ่อนพนัน ย้ำนักธุรกิจกัมพูชาคุยกับรัฐบาลไทยแล้ว แต่หากมีข้อผิดพลาดยินดีแก้ไข แต่ที่สุดก็ยังไร้แววขนดินออกจากจุดพิพาท สุดท้ายทหารต้องสั่งปิดจุดผ่านแดนช่องอานม้าต่อ

จากกรณีทหารกัมพูชานำรถขนดินถมปรับที่บริเวณเส้นสันปันน้ำ ใกล้อนุสาวรีย์ตาโอม เขต อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร ตั้งอยู่ตรงข้ามกับช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งยังไม่มีการปักปันเขตแดนอย่างชัดเจน เพื่อสร้างบ่อนการพนัน พร้อมอ้างได้คุยกับรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” แล้ว แต่ทหารไทยไม่ยอมกดดันให้ทหารกัมพูชาหยุดการละเมิด MOU ซึ่งห้ามก่อสร้างสิ่งถาวรใดๆ จนกว่าจะมีการปักปันเขตแดนให้ชัดเจนระหว่างกันก่อน

โดยการเจรจาเมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ทหารไทย และกัมพูชาได้เปิดเจรจาที่ฐานปฏิบัติการแดนไกลของกองร้อยทหารพรานที่ 2310 ต.โซง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยฝ่ายไทยมี พ.อ.เวิน จำปาสา รอง ผอ.กอ.รมน.อุบลราชธานี พ.อ.สมภพ ภาระเวช ผบ.กรมทหารพรานที่ 23 นายสมยศ รักษ์กุลวิทยา นายอำเภอน้ำยืน ส่วนฝ่ายกัมพูชามี พล.ต.พาด โซ๊ะเพ็ญ รอง ผบ.กองพลสนับสนุนที่ 3 พ.ต.ท.เจีย ลาย ผบ.ตชด.ที่ 793 และนายจุม เซ็ง ประธานดูแลช่องอานม้า

โดยฝ่ายไทยแสดงความกังวลต่อความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ จึงเสนอให้ฝ่ายกัมพูชาขนดินที่นำมาปรับถมบริเวณทิศตะวันออกอนุสาวรีย์ตาโอมที่จะทำเป็นบ่อนการพนันออกไปให้หมด หากกัมพูชาไม่รีบดำเนินการฝ่ายไทยจะสั่งปิดจุดผ่านแดนตรงจุดนี้ไปก่อน และถ้าเกิดความขัดแย้งจะส่งผลต่อบรรยากาศการขอเปลี่ยนจากจุกผ่อนปรนเป็นด่านผ่านแดนถาวรด้วย

ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการเข้าใจผิด เพราะ พล.ต.ลือ จันดารา หัวหน้าฝ่ายประสานกัมพูชาไทย ได้รับแจ้งจากนายตรี เพียบ นักธุรกิจของกัมพูชาจะมีการก่อสร้างบ่อนการพนันในจุดดังกล่าว และได้หารือกับรัฐบาลไทยแล้ว จึงมีการปรับดิน เมื่อมีข้อผิดพลาดยินดีจะรีบแก้ไข และไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นอีก

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า หลังจากทหารทั้ง 2 ฝ่ายได้พบปะพูดคุยกันแล้ว ปรากฏว่า วานนี้ (14 ก.ย.) กัมพูชาก็ยังนิ่งเฉยไม่นำรถมาขนดินออกไป ฝ่ายไทยจึงสั่งปิดจุดผ่อนปรนช่องอานม้า และวันนี้ (15 ก.ย.) นายสมยศ รักษ์กุลวิทยา นายอำเภอน้ำยืน ได้นัดนายอำเภอจอมกระสาน จ.พระวิหาร ที่ดูแลพื้นที่ช่องอานม้ามาหารืออีก แต่ฝ่ายกัมพูชาเบี้ยวไม่ยอมมาพบ ฝ่ายไทยจึงสั่งปิดจุดผ่อนปรนนี้ต่อไปอีก

สำหรับปริมาณการค้าขายในจุดผ่อนปรนช่องอานม้าระหว่างไทย-กัมพูชา มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนระหว่างกันเป็นมูลค่าสัปดาห์ละ 1-2 หมื่นบาท ส่วนสินค้าที่ไทยส่งออกคือ น้ำมันเชื้อเพลิงคิดเป็นเงินราว 400 ล้านบาทต่อปี